โจทก์เป็นผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอยู่ก่อนตามสัญญาเช่าที่ดิน
แม้ ช. ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ว. และในฐานะผู้รับพินัยกรรมและผู้จัดการมรดกของ ป.
ซึ่งเป็นเจ้ามรดกผู้เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทจะมีอำนาจทำสัญญาเช่าที่ดินกับโจทก์หรือไม่ก็ตาม
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินพิพาททำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
ย่อมเป็นการกระทำละเมิดจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๒๐ การที่จำเลยทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ไว้ให้แก่โจทก์ต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจยอมรับว่าเป็นหนี้ค่าเสียหายที่จะชำระให้แก่โจทก์เป็นเงิน
๑๓๐,๐๐๐ บาท โดยจะผ่อนชำระเป็นงวด
จึงเป็นการรับสภาพหนี้ตามความรับผิดชอบต่อโจทก์ที่มีอยู่จริง ทั้งการที่ ช. หรือ
จ. จะเป็นผู้ที่มีอำนาจนำที่ดินพิพาทให้โจทก์หรือจำเลยเช่าโดยชอบจะนำมาอ้างไม่ได้ว่าจำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้โดยสำคัญผิด
หนังสือรับสภาพหนี้ที่จำเลยทำกับโจทก์จึงมิได้เป็นการทำโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรมไม่ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๕๖
เพิ่มเติม
สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม
คือ สิ่งที่จะต้องมีในนิติกรรมนั้นๆ ถ้าไม่มีสิ่งนี้แล้วนิติกรรมก็ไม่อาจมีขึ้นได้
ความสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง
ได้แก่ ความสำคัญผิด ในลักษณะของนิติกรรม ความสำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรมและความสำคัญผิดในทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรมเป็นต้น
การสำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรมคือ
กรณีที่ผู้ทำนิติกรรมตั้งใจทำนิติกรรมอย่างหนึ่งแต่แท้จริงแล้วได้แสดงเจตนาทำนิติกรรมอีกอย่างหนึ่งหรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งได้ว่าผู้ทำนิติกรรมได้ทำนิติกรรมอย่างหนึ่งโดยเข้าใจว่าเป็นหนี้กรรมอีกอย่างหนึ่ง...
ฎีกาที่ ๔๘๖๑/๒๕๕๕ โจทก์ทั้งสามลงลายมือชื่อในคำขอประกันชีวิตมอบให้จำเลยที่ ๑
ไปยื่นต่อจำเลยที่ ๒ เป็นการแสดงเจตนาทำนิติกรรมเพราะถูกจำนวนที่ ๑ หลอกลวงว่า เป็นการขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิตเดิมอันเป็นการสำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรมจึงเป็นความสำคัญผิดในสาระสำคัญของนิติกรรมเป็นโมฆะ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๖ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง เมื่อโจทก์ทั้งสามไม่ได้ประมาทเลินเล่อในการลงลายมือชื่อในคำขอทำสัญญาประกันชีวิตสัญญาประกันชีวิตตามกรมธรรม์จึงไม่มีผลสมบูรณ์ที่ใช้บังคับได้
สำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรม
หมายถึงผู้ทำนิติกรรมตั้งใจที่จะทำนิติกรรมกับบุคคลหนึ่งแต่กลับไปแสดงเจตนาทำนิติกรรมกับอีกบุคคลหนึ่งโดยสำคัญผิดไปว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน… ฎีกาที่ ๒๖๐๒/๒๕๑๗ โจทก์ไม่ใช่เจ้าของ กรรมสิทธิ์ตึกพิพาทมาตั้งแต่
พ.ศ.๒๕๐๕ โจทก์จึงไม่มีอำนาจที่จะให้ผู้อื่นเช่าตึกพิพาทนี้ได้ดังนั้นการที่จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าตึกพิพาทได้ทำสัญญากับโจทก์ยอมออกจากตึกพิพาทโดยเข้าใจว่าโจทก์ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกพิพาทอยู่
โจทก์รู้ดีว่าตึกพิพาทไม่ใช่ของตนแล้วแต่ปกปิดความจริงไว้หากจำเลยรู้ความจริงก็จะไม่ยอมทำสัญญากับโจทก์ดังนี้สัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะจำเลยสำคัญผิดในสิ่งสาระสำคัญจึงตกเป็นโมฆะ
โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท
มาตรา
๑๕๖ วรรคสอง ลงท้ายด้วยคำว่า “เป็นต้น” แสดงว่า
ยังมีสิ่งอื่นที่อาจเป็นสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมตามวรรคหนึ่งได้อีก เช่น
การสำคัญผิดในเนื้อหาแห่งนิติกรรม
ในทางปฏิบัติ ความสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม อาจเกิดจากการที่คู่กรณีหลอกลวงทำให้คู่กรณีอีกฝ่ายเข้าใจผิดในสาระสำคัญของนิติกรรมจึงแสดงเจตนาออกมาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม
อ้างอิง
พลภวิษย์ พันธุ์คำเกิด. คู่มือสัมมนาและวิเคราะห์ข้อสอบกฎหมายลักษณะนิติกรรมและหนี้ เล่ม ๑.
กรุงเทพมหานคร:
สำนักพิมพ์กรุงสยามพับลิชชิ่งจำกัด, ๒๕๖๐.
วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์. กฎหมายแพ่งพิสดาร เล่ม๑
ฉบับปรับปรุงใหม่ปี ๒๕๕๙. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แสงจันทร์การพิมพ์,
๒๕๕๙.
ฎีกาที่ ๙๒๒๑/๒๕๔๔ จำเลยที่
๑ ทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ขึ้นเพื่อรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องซึ่งจำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์
เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงเท่านั้น มิได้มีการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ ลูกหนี้
และมิใช่เป็นการทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาชำระหนี้และวิธีการชำระหนี้จึงมิใช่การแปลงหนี้ใหม่อันจะทำให้หนี้เดิมระงับ
หนี้ตามสัญญาค้ำประกันการเช่าซื้อย่อมไม่ระงับเช่นกันจำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงหาหลุดพ้นความรับผิดไม่
แม้จำเลยที่ ๒ มิได้ลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ยินยอมค้ำประกันการชำระหนี้ตามหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ด้วยก็ตามเพราะโจทก์ขอให้บังคับจำเลยที่
๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ในจำนวนเงินที่ค้างชำระตามหนังสือสัญญารับสภาพหนี้ซึ่งเป็นจำนวนหนี้ค่าเช่าซื้อค้างชำระที่จำเลยที่
๒ ต้องรับผิดชำระแก่โจทก์ตามสัญญาค้ำประกันและหนี้ยังไม่ระงับนั่นเอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๕๖ การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมเป็นโมฆะ
ความสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง
ได้แก่ ความสำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรม
ความสำคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรมและความสำคัญผิดในทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม
เป็นต้น
0 Comments
แสดงความคิดเห็น