ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่
๑๙ มีนาคม ๒๕๔๔ และเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งให้บริษัท ก.
นำส่งเงินตามหนังสืออายัดลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔๔ ตามคำแถลงของโจทก์ลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน
๒๕๕๓ ถือได้ว่าโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีครบถ้วนภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาเมื่อวันที่
๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๓ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๑ (เดิม) แล้ว
โจทก์ขอให้เจ้าพยักงานบังคับคดีอายัดเงินเพิ่มเติมที่จำเลยจะได้รับจากสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัท
ก. ภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๑
(เดิม)
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งให้โจทก์ส่งพยานเอกสารประกอบการอายัดให้ครบก่อนจึงจะดำเนินการต่อไป
ก็เป็นขั้นตอนในส่วนการพิจารณาและการดำเนินการของเจ้าพนักงานบังคับคดี แม้วันที่โจทก์ส่งเกสารต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีจะพ้นกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา
ก็ถือได้ว่าโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๑(เดิม) แล้ว
ขั้นตอนต่างๆ
ของการบังคับคดี
๑.เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี
คดีนี้ ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๔๔
๒.ต้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว
๓.ต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ซึ่งคดีนี้ วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
โจทก์ยื่นคำแถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินที่จำเลยได้รับจากบริษัท ก.
- มาตรา ๒๗๑ เดิม ปัจจุบัน คือ
มาตรา ๒๗๔
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๗๔ ถ้าคู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดีหรือบุคคลที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ชำระหนี้
(ลูกหนี้ตามคำพิพากษา) มิได้ปฏิบัติตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลทั้งหมดหรือบางส่วน
คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะคดีหรือบุคคลที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ได้รับชำระหนี้
(เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้มีการบังคับคดีโดยวิธียึดทรัพย์สิน
อายัดสิทธิเรียกร้อง
หรือบังคับคดีโดยวิธีอื่นตามบทบัญญัติแห่งภาคนี้ภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่ง
และถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องใดไว้หรือได้ดำเนินการบังคับคดีโดยวิธีอื่นไว้บางส่วนแล้วภายในระยะเวลาดังกล่าว
ก็ให้ดำเนินการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้อง
หรือบังคับคดีโดยวิธีอื่นนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จได้
ถ้าคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระหนี้เป็นงวด
เป็นรายเดือน หรือเป็นรายปี หรือกำหนดให้ชำระหนี้อย่างใดในอนาคต
ให้นับระยะเวลาสิบปีตามวรรคหนึ่งตั้งแต่วันที่หนี้ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นอาจบังคับให้ชำระได้
ถ้าสิทธิเรียกร้องตามคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นการให้ชำระเงิน
ส่งคืนหรือส่งมอบทรัพย์เฉพาะสิ่ง
บุคคลซึ่งได้รับโอนหรือรับช่วงสิทธิตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นมีอำนาจบังคับคดีตามความในหมวด
๒ การบังคับคดีในกรณีที่เป็นหนี้เงิน หรือหมวด ๓ การบังคับคดีในกรณีที่ให้ส่งคืนหรือส่งมอบทรัพย์เฉพาะสิ่ง
แล้วแต่กรณี โดยการร้องขอต่อศาลเพื่อเข้าสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป
ฎีกาที่ ๑๐๗๓๑/๒๕๕๘(ประชุมใหญ่)
ระยะเวลาการบังคับคดีภายในสิบปีตาม มาตรา ๒๗๑(เดิม) ในกรณีนี้
ต้องเริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษาของศาลชั้นที่สุดในคดีนั้น
ฎีกาที่ ๗๑๙๐/๒๕๓๘
กรณีที่มีการฎีกา
ระยะเวลาการบังคับคดีก็ต้องเริ่มนับจากวันที่ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา
#คำพิพากษาฎีกาที่
5227/2560
0 Comments
แสดงความคิดเห็น