ส. ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะเมื่อวันที่
๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙
ซึ่งยังไม่พ้นระยะเวลาที่โจทก์จะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น กรณีเช่นนี้เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องดังกล่าวแล้ว
ศาลชั้นต้นจะต้องไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนและมีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๔๒ และ ๔๓ เสียก่อน แล้วจึงจะมีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ที่ยื่นมาพร้อมกับคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะและที่ยื่นมาในภายหลัง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๘
กันยายน ๒๕๕๙ ว่า “สั่งใหม่ ไปชั้นนี้เห็นควรอนุญาตไปก่อน”
รวมทั้งที่สั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ตามคำร้องที่ยื่นเมื่อวันที่
๒๘ กันยายน ๒๕๕๙ ก่อนที่จะมีคำสั่งอนุญาตให้ ส. เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ จึงเป็นการไม่ชอบ
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ ส. เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์เมื่อวันที่
๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ และต่อมาได้สั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๐
ก็ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ เพราะมีพฤติการณ์พิเศษตามที่โจทก์ขอมาตามคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ทั้งสองฉบับดังกล่าว
และได้รับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยื่นภายในกำหนดไว้แล้ว
ข้อเท็จจริง
คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่
๒๙ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งจะครบกำหนดอุทธรณ์ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๙ ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่
๑ วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๙ อ้างว่าโจทก์ถึงแก่ความตายแล้วขอขยายระยะเวลา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตถึงวันที่
๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่
๔ ในวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก ๓๐
วันศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอนุญาตเป็นครั้งสุดท้ายถึงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ ครั้นวันที่
๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ ส. ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะและยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก
๓๐ วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า “รอสั่งภายหลังจากที่มีคำสั่งเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะแล้ว”
และเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๙ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่ ๖
ออกไปอีก ๓๐ วัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและมีคำสั่งในคำร้องขอขยายระยะเวลาครั้งที่
๕ ว่า “สั่งใหม่ ในชั้นนี้เห็นควรอนุญาตไปก่อน” ซึ่งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ครั้งที่
๖ กำหนด ๓๐ วัน นั้น ครบกำหนดในวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙
หลังจากนั้นไม่มีผู้ใดขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์อีก
ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ของโจทก์โดยเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ที่ยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย
ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค
๓ ให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
เพิ่มเติม
คำว่า “คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลได้มรณะ…”
โดยทั่วไปคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลใดก็ถือว่าเป็นคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลนั้น
ซึ่งอาจเป็นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา ก็ได้
สำหรับในช่วงระยะเวลาอุทธรณ์หรือฎีกา
กล่าวคือช่วงเวลาตั้งแต่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จนถึงเวลายื่นอุทธรณ์หรือฎีกาหรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
คือครบกำหนด ๑ เดือนกรณีที่ไม่มีการอุทธรณ์หรือฎีกา ถือว่าเป็นกรณีที่คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลระหว่างอุทธรณ์หรือฎีกาเช่นกัน
ทายาทของคู่ความผู้มรณะจึงมีสิทธิขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่เพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาได้(ฎีกาที่ ๑๕๗๕/๒๕๓๘)
อ้างอิง
วิเชียร
ดิเรกอุดมศักดิ์. วิ แพ่งพิสดาร เล่ม ๑
ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี ๒๕๕๓.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๓ เมื่อศาลเห็นสมควรหรือมีคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง
ให้ศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายนี้หรือตามที่ศาลได้กำหนดไว้
หรือระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งอันกำหนดไว้ในกฎหมายอื่น
เพื่อให้ดำเนินหรือมิให้ดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาใด ๆ
ก่อนสิ้นระยะเวลานั้นแต่การขยายหรือย่นเวลาเช่นว่านี้ให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ
และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น
เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย
มาตรา ๔๒ ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลได้มรณะเสียก่อนศาลพิพากษาคดี
ให้ศาลเลื่อนการนั่งพิจารณาไปจนกว่าทายาทของผู้มรณะหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกของผู้มรณะ
หรือบุคคลอื่นใดที่ปกครองทรัพย์มรดกไว้ จะได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ โดยมีคำขอเข้ามาเอง
หรือโดยที่ศาลหมายเรียกให้เข้ามา เนื่องจากคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำขอฝ่ายเดียว
คำขอเช่นว่านี้จะต้องยื่นภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นมรณะ
ถ้าไม่มีคำขอของบุคคลดังกล่าวมาแล้ว
หรือไม่มีคำขอของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งภายในเวลาที่กำหนดไว้
ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเรื่องนั้นเสียจากสารบบความ
0 Comments
แสดงความคิดเห็น