คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันคือ ชิงทรัพย์กรรมหนึ่ง แล้วจึงทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกกรรมหนึ่ง โจทก์หาได้บรรยายคำฟ้องว่าจำเลยชิงทรัพย์ผู้เสียหายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจไม่ คำฟ้องของโจทก์เพียงแต่บรรยายว่าจำเลยชิงทรัพย์ของผู้เสียหายโดยมีอาวุธอันเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๓๓๙ วรรคสอง เท่านั้น จึงลงโทษจำเลยตาม ป.อ.มาตรา ๓๓๙ วรรคสาม ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้อง ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา ๑๙๒ วรรคหนึ่ง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้หยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นอ้างได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๑๙๕ วรรคสองประกอบมาตรา ๒๒๕

เพิ่มเติม
                โจทก์ไม่ได้กล่าวบรรยายในฟ้องถึงองค์ประกอบความผิด แม้จะมีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษและจำเลยให้การรับสารภาพ ก็พิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้(ฎีกาที่ ๑๕๗๒๖/๒๕๕๗, ๑๓๐๙๐/๒๕๕๗) คดีที่จำเลยให้การรับสารภาพโดยไม่มีการสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ ศาลจะฟังว่าเป็นการรับสารภาพเราะจำนนต่อพยานหลักฐานไม่ได้(ฎีกาที่ ๑๐๗๖๖/๒๕๕๑)

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
                มาตรา ๑๙๒ วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้พิพากษา หรือสั่ง เกินคำขอ หรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง

ประมวลกฎหมายอาญา
                มาตรา ๓๓๙ ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
                (๑) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป
                (๒) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น
                (๓) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้
                (๔) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
                (๕) ให้พ้นจากการจับกุม
                ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท
                ถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดแห่งมาตรา ๓๓๕ หรือเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสามแสนบาท
                ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท
                ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท
                ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต