พ...ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๔ ให้นิยามคำว่า “เผยแพร่ต่อสาธารณชน” หมายความว่า ทำให้ปรากฏต่อสาธารณชน โดย...การทำให้ปรากฏด้วยเสียงและหรือภาพ...หรือโดยวิธีการอื่นใดซึ่งงานที่ได้จัดทำขึ้น การที่จะเป็นความผิดฐานดังกล่าวได้ต้องมีการทำให้ปรากฏต่อสาธารณชนด้วยเสียงและหรือภาพโดยวิธีการอื่นใดซึ่งงานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียงและโสตทัศนวัสดุอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย แต่จากการบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่าการเปิดเพลงจาก “คอมพิวเตอร์ซึ่งบันทึกข้อมูลเพลงของผู้เสียหายพร้อมอุปกรณ์เครื่องเสียงซึ่งใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ดังกล่าว” หรือ “คาราโอเกะแบบหยอดเหรียญ” นั้น จะต้องมีลูกค้ามาหยอดเหรียญลงไปในเครื่องดังกล่าวเสียก่อน จึงจะปรากฏเสียงและหรือภาพให้ร้องเพลงคาราโอเกะได้ หากไม่มีลูกค้าในร้านอาหารดังกล่าวคนใดหยอดเหรียญลงไปแล้ว ก็ย่อมไม่ปรากฏเสียงและหรือภาพงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย อันจะถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชนตามความหมายที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๔ ได้ ลำพังเพียงแต่การนำเครื่องคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญดังกล่าวไปติดตั้งในร้านอาหาร ซึ่งอาจมีการทำซ้ำงานดนตรีกรรมและสิ่งบันทึกเสียงเพลงอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตในเครื่องคาราโอเกะดังกล่าว ยังไม่ถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียงเพลงหรือโสตทัศนวัสดุ อันจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๖๙ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๗(๒) และ ๒๘(๒) ได้ ดังนั้น การบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องดังกล่าวจึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ไม่อาจเป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์โดยเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานดนตรีกรรม สิ่งบันทึกเสียงและโสตทัศนวัสดุอันมีลิขสิทธิ์เพื่อการค้าตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๖๙ วรรคสอง ประกอบมาตรา  ๒๗(๒) และ ๒๘(๒) ได้ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๒๖ ประกอบ ป.วิ.อ.มาตรา ๑๕๘(๕) แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๒๖ ประกอบ ป.วิ.อ.มาตรา ๑๘๕ วรรคหนึ่ง แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา ๑๒ วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.๒๕๓๘ มาตรา ๔๕(เดิม) และ ป.วิ.อ.มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง

เพิ่มเติม
                งานดนตรีกรรมที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องมีทำนองเพลงเป็นสำคัญ จะมีคำร้องหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสำคัญ ลำพังเพียงทำนองเพลงอย่างเดียวก็ถือว่าเป็นดนตรีกรรมแล้ว(ฎีกาที่ ๙๖๐๒/๒๕๕๔)

พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗
                มาตรา ๑๕ ภายใต้บังคับมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๔ เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวดังต่อไปนี้
                (๑) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
                (๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
                (๓) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง
                (๔) ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น
                (๕) อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิตาม (๑) (๒) หรือ (๓) โดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดหรือไม่ก็ได้ แต่เงื่อนไขดังกล่าวจะกำหนดในลักษณะที่เป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมไม่ได้
                การพิจารณาว่าเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง (๕) จะเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
                มาตรา ๒๗ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
                (๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
                มาตรา ๒๘ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕)  ทั้งนี้ ไม่ว่าในส่วนที่เป็นเสียงและหรือภาพ ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
                (๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
                มาตรา ๖๙ ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงตามมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ หรือมาตรา ๕๒ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
                ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ