โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็น ๒ ข้อ ตามประเภทธุรกิจค้าขายอาหารสัตว์กับค้าขายผงถ่าน แม้จะบรรยายรายละเอียดตามวันเวลาที่ได้มอบเงินลงทุนในการทำธุรกิจทั้งสองประเภทแยกเป็น ๔ ครั้ง และ ๓ ครั้ง แต่การมอบเงินในแต่ละครั้งเป็นผลสืบเนื่องมาจากจำเลยที่ ๒ หลอกลวงให้โจทก์ช่วยเหลือทางการเงินแก่จำเลยที่ ๒ เพื่อนำไปลงทุนทำธุรกิจทั้งสองประเภท ซึ่งมีการกระทำต่อเนื่องการด้วยเจตนาอย่างเดียวเพื่อที่จะฉ้อโกงโจทก์ตามธุรกิจในแต่ละประเภท การกระทำของจำเลยที่ ๒ เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ๒ กรรม ตามประเภทธุรกิจ มิใช่ ๗ กรรม

ตามฎีกานี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามโดยทุจริตได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างวาระกัน กล่าวคือ ข้อ ๑.เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๖ วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสามร่วมกันหลอกลวงโจทย์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้งรวม ๗ ครั้ง โดยร่วมกันชักชวนโจทย์ให้ร่วมลงทุนค่าวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่งให้แก่ฟาร์ม ช. จะให้ส่วนแบ่งเป็นผลตอบแทนแก่โจทก์ร้อยละ ๕ ของเงินลงทุนในทุก ๑๕ วัน ซึ่งเป็นความเท็จความจริงจำเลยทั้งสามไม่ได้นำเงินของโจทก์ไปลงทุนค่าวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้แก่ฟาร์ม ช. โดยการร่วมกันหลอกลวงของจำเลยทั้งสามทำให้โจทก์หลงเชื่อว่าเป็นความจริงและมอบเงินให้แก่จำเลยทั้งสามไป... ข้อ ๒.เมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๖ วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยทั้งสามชักชวนให้โจทก์ร่วมลงทุนขายผงถ่านคุณภาพสูงให้แก่บริษัท ท. บอกว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนอัตราตันละ ๔๐๐ บาท รับผลประโยชน์ครั้งแรกประมาณ ๖๐ วัน หลังจากลงทุน และหลังจากนั้นจะได้รับผลตอบแทนทุกวันที่ ๑ ถึง ๕ ของทุกเดือน ซึ่งเป็นความเท็จเพราะความจริงแล้วจำเลยทั้งสามไม่ได้นำเงินโจทก์เป็นลงทุนดังกล่าว จากการหลอกลวงทำให้โจทก์หลงเชื่อว่าเป็นความจริงมอบไว้แก่จำเลยทั้งสามหลายครั้ง...รวมเงินที่โจทก์มอบให้ ๗ ครั้ง...

ประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา ๙๑ เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดดังต่อไปนี้
               (๑) สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี
               (๒) ยี่สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี แต่ไม่เกินสิบปี
               (๓) ห้าสิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต