จำเลยที่ ๑ ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทก่อนที่โจทก์ร่วมจะได้สิทธิการเช่าที่ดินพิพาทจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้โดยจำเลยที่
๑ ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี ถือว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการบุกรุกรบกวน
การครอบครองที่ราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีโดยเป็นความผิดสำเร็จแล้ว ส่วนการที่จำเลยที่ ๑ ยังคงครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ต่อมานั้นเป็นผลของการบุกรุก
แม้การครอบครอง ดังกล่าวยังคงกระทำต่อเนื่องกันจนถึงวันที่โจทก์ร่วมได้สิทธิครอบครอง
โดยการเช่าที่ดินพิพาทจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีก็ตาม
แต่โจทก์ร่วมผู้เช่าที่ดินจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีเป็นผู้ครอบครองหลังจากการกระทำความผิดฐานบุกรุกสำเร็จแล้ว
ไม่ถือว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายตาม ป.อ.มาตรา ๓๖๒
ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ตาม ป.อ.มาตรา ๓๖๖ และพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนได้ต่อเมื่อมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา
๑๒๑ วรรคสอง เมื่อถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายจึงไม่มีสิทธิร้องทุกข์และ
เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ การสอบสวนความผิดฐานนี้จึงไม่ชอบส่งผลให้พนักงานอัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๑ ในความผิดฐานดังกล่าว
ตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ.มาตรา ๑๒๐
เพิ่มเติม
ตามมาตรา
๓๖๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยความผิดฐานบุกรุกนั้น มีความหมายเป็นสองตอน
ตอนแรกรบกวนกรรมสิทธิ์ ตอนที่สองรบกวนสิทธิครอบครอง ฉะนั้น จึงหมายรวมถึงการกระทำอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เช่าโดยปกติสุขด้วย
เพราะผู้เช่าก็เป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เช่า จึงเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวเอาโทษแก่ผู้บุกรุกได้
(ฎีกาที่ ๑๓๕๕/๒๕๐๔ ประชุมใหญ่)
มาตรา ๓๖๒ ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น
เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ
อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ้างอิง
เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. คำอธิบาย
หลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ว่าด้วย การดำเนินคดีในขั้นตอนก่อนการพิจารณา
พิมพ์ครั้งที่ ๗ แก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ พลสยาม
พริ้นติ้ง (ประเทศไทย), ๒๕๕๓.
0 Comments
แสดงความคิดเห็น