ที่ดินพิพาทเดิมเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยได้ให้บริษัท
อ. เช่า ปลูกสร้างอาคารห้างสรรพสินค้าเป็นเวลา ๒๕ ปี โดยทำเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
ระบุให้อาคารดังกล่าว ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยทันทีเมื่อพ้นกำหนดสัญญา ต่อมาจำเลยได้นำที่ดินพิพาทไปจำนองเป็นประกันเงินกู้ไว้กับธนาคาร
ก. แต่ยังประสบภาระหนี้สิน จึงมีการโอนสิทธิจำนองดังกล่าวให้แก่โจทก์
และโจทก์ได้โอนต่อไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยซึ่งได้โอนเป็นกรรมสิทธิ์ของตนในภายหลัง
แล้วได้โอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวกลับคืนมาให้แก่โจทก์ แม้ที่ดินพิพาทมีสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษผูกพันอยู่กับบริษัท
อ. ซึ่งมีจำเลยเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่มีอำนาจกระทำการแทน
แต่ปรากฏต่อมาว่าบริษัทดังกล่าวได้ถูกนายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน อันมีผลทำให้บริษัทสิ้นสภาพความเป็นนิติบุคคลตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๒๗๓/๓ สัญญาเช่าทรัพย์สินซึ่งผูกพันตัวบุคคลคือผู้เช่าเป็นสำคัญย่อมระงับ
ไม่ตกติดไปเป็นภาระแก่โจทก์ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาท
ย่อมมีอำนาจและสิทธิที่จะใช้สอยทรัพย์สินของตน
กับมีสิทธิติดตามเอาคืนจากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้ามาเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของตนได้
หากยังมีการเพิกเฉยก็ชอบที่โจทก์จะใช้สิทธิความเป็นเจ้าของจัดการต่อบุคคลนั้น ๆ
ได้เป็นการเฉพาะ สำหรับอาคารที่ปลูกอยู่บนที่พิพาทถือเป็นส่วนควบของที่ดิน
โจทก์ย่อมมีกรรมสิทธิ์ในส่วนควบนั้น ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๔๔ หากโจทก์ไม่ประสงค์จะคงไว้ก็ชอบที่จะรื้อถอนได้เอง
ที่โจทก์มาฟ้องจำเลยว่ากระทำละเมิดเป็นคดีนี้โดยมิได้นำสืบให้เห็นพฤติการณ์ของจำเลยว่าได้เข้าไปดำเนินการอย่างไรในที่พิพาท
อันเป็นการขัดขวางสิทธิความเป็นเจ้าของทรัพย์สินของโจทก์อย่างแน่นอน จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่มีหลักฐานรองรับ
เพิ่มเติม
สัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าการเช่าธรรมดาคืออะไร
ศาสตราจารย์ ดร.มานะ พิทยาภรณ์
ได้ให้คำนิยามไว้ว่า คือ “สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้เช่าได้ให้ค่าตอบแทนแก่ผู้ให้เช่านอกเหนือไปจากค่าเช่า
ในลักษณะ เป็นการปลูกสร้างอาคารแล้วยกกรรมสิทธิ์ให้แก่เจ้าของที่ดินก็ดี
เป็นการปลูกต้นไม้แล้วยก ให้แก่เจ้าของที่ดินก็ดี
เป็นการออกเงินช่วยค่าก่อสร้างก็ดี หรือในกรณีอื่นในทำนองเดียว กัน
แต่ไม่รวมถึงการให้เงินกินเปล่า (แป๊ะเจี๊ยะ) แต่อย่างใด”
สัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่ใช่สิทธิ์เฉพาะตัวแต่
ตกทอดถึงทายาทของผู้เช่าเมื่อผู้เช่าตาย
ฎีกาที่ ๑๗๒/๒๔๘๘ (ป) เจ้าของตึกทำสัญญากับผู้เช่าว่ายอมให้ผู้เช่าออกทุนสร้างตึกให้ดีขึ้นตามรายการที่ตกลงกัน
เมื่อเสร็จแล้วเจ้าของยอมให้ผู้เช่าๆ ต่อไป ๑๕ ปี ในอัตราค่าเช่าเดิม
ดังนี้เป็นสัญญาต่างตอบแทนกันอันเกี่ยวกับทรัพย์สินย่อมตกทอด ไปยังทายาท
ผู้จัดการทรัพย์มรดกของผู้เช่า ฟ้องขอให้ผู้ให้เช่ายอมให้เช่าต่อไปจนครบ ๑๕ ปี
ตามสัญญาเช่าได้
ฎีกาที่ ๘๐๑-๘๐๒/๒๔๙๒ สัญญาเช่าที่ดินมีว่า
ผู้เช่าต้องหาต้นผลไม้ มาปลูกเองนั้นเป็นสัญญาต่างตอบแทน
เมื่อผู้เช่าตายแล้วสิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าก็ตกไป ยังทายาท ทายาทของผู้เช่ามีสิทธิเช่าต่อไปจนครบกำหนดตามสัญญาเช่า
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๕๖๙
อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไป
เพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า
ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย
มาตรา ๑๒๗๓/๓
เมื่อสิ้นกำหนดเวลาตามที่แจ้งในหนังสือบอกกล่าวตามมาตรา ๑๒๗๓/๑ หรือมาตรา ๑๒๗๓/๒
แล้ว และห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือผู้ชำระบัญชีมิได้แสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น
นายทะเบียนจะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นออกเสียจากทะเบียนก็ได้
ในการนี้ให้ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น
สิ้นสภาพนิติบุคคลตั้งแต่เมื่อนายทะเบียนขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือ
บริษัทออกเสียจากทะเบียน แต่ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน
กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นมีอยู่เท่าไรก็ให้คงมีอยู่อย่างนั้นและพึงเรียกบังคับได้เสมือนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น
ยังมิได้สิ้นสภาพนิติบุคคล
อ้างอิง
ไผทชิต
เอกจริยกร. คำอธิบาย เช่าทรัพย์-เช่าซื้อ พิมพ์ครั้งที่ ๒๐. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน, ๒๕๖๐.
0 Comments
แสดงความคิดเห็น