ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่จำเลยโดยระบุรายการทรัพย์สินแต่เพียง บ้าน
รถยนต์ และเงินฝาก โดยไม่ระบุถึงที่ดินที่บ้านตั้งอยู่ บ้านจะหมายความรวมถึงที่ดินพิพาทที่บ้านตั้งอยู่ด้วยหรือไม่
เป็นกรณีที่ความข้อใดข้อหนึ่งในพินัยกรรมอาจตีความได้เป็นหลายนัย
ให้ถือเอาตามนัยที่จะสำเร็จผลตามความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุด
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๔๔ จำเลยย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบถึงความประสงค์ของผู้ตายได้ไม่ใช่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร
ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔
ตามฎีกานี้
มีประเด็นว่าผู้ตายยกที่ดินพิพาทให้จำเลยด้วยหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่าบ้านปลูกสร้างเต็มพื้นที่ที่ดินพิพาท
มีพื้นที่ว่างหน้าบ้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การที่ผู้ตายเขียนพินัยกรรมยกบ้านให้จำเลย
จึงเชื่อว่าผู้ตายมีความประสงค์จะยกบ้านพร้อมที่ดินพิพาทให้จำเลยด้วยเพื่อให้ใช้อยู่อาศัยได้
ไม่ใช่ยกเฉพาะบ้านให้จำเลยรื้อไป
เพิ่มเติม
การตีความข้อใดข้อหนึ่งในพินัยกรรมที่อาจตีความได้เป็นหลายนัย
ให้ถือเอาตามนัยที่จะสำ เร็จผลตามความประสงค์ของผู้ทำ พินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุดตาม ป.พ.พ.มาตรา
๑๖๘๔ และต้องเพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยค่าสำ นวนตามตัวอักษรตามมาตรา ๑๗๑ จึงต้องพิจารณาจากข้อความที่กำ หนดในพินัยกรรมเพื่อหาเจตนาที่แท้จริงของผู้ทำ พินัยกรรมว่าเป็นเช่นไร(ฎีกาที่
๑๒๙๗๒/๒๕๕๗)
การทำ พินัยกรรมอาจกำ หนดการเพื่อตายในเรื่องทรัพย์สินที่จะได้มาในอนาคตได้
เมื่อผู้ตายทำ พินัยกรรมมีข้อความระบุว่าทรัพย์สินของผู้ตายที่มีอยู่ในขณะที่ทำ พินัยกรรมหรือที่จะมีขึ้นในภายหน้าผู้ตายยกให้แก่จำ เลยแต่ผู้เดียว ดังนั้น
ทรัพย์มรดกของผู้ตายที่ได้มาภายหลังผู้ตายทำ พินัยกรรมก็ย่อมตกเป็นของจำ เลยตามพินัยกรรมดังกล่าวด้วย(ฎีกาที่
๓๕๒๓/๒๕๓๒)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๖๘๔
เมื่อความข้อใดข้อหนึ่งในพินัยกรรมอาจตีความได้เป็นหลายนัย ให้ถือเอาตามนัยที่จะสำ เร็จผลตามความประสงค์ของผู้ทำ พินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุด
0 Comments
แสดงความคิดเห็น