การเปิดคลินิกทันตกรรมของโจทก์ก็เพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป ประชาชนรวมทั้งจำเลยย่อมมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ จำเลยเข้าไปในคลินิกทันตกรรมของโจทก์ในเวลาเปิดทำการแม้จะเป็นการเข้าไปและถ่ายภาพในห้องตรวจรักษาคนไข้ด้วย ก็เพราะต้องการสอบถามโจทก์ถึงสาเหตุที่โจทก์แย่งลูกค้าไปจากคลินิกของจำเลย แต่เมื่อโจทก์ให้ตามพนักงานรักษาความปลอดภัยมาไล่ให้จำเลยออกจากคลินิก จำเลยก็มิได้ขัดขืนรีบเดินกลับออกไปทันทีที่เห็นพนักงานรักษาความปลอดภัย การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุข ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๒

               ตามฎีกานี้ คลินิกทันตกรรมเป็นสาธารณสถาน จำเลยจึงมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้

เพิ่มเติม
               สาธารณสถาน มีองค์ประกอบ ๒ ประการ คือ ๑.สถานที่ใดๆ ๒. ประชาชนมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้
               สถานที่ใดๆ หมายถึง อาคาร บ้าน เรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือที่ว่างเปล่ามีขอบเขตก็ได้
               ประชาชนมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ คือ ช่วงขณะหนึ่งอาจเป็นที่สาธารณสถาน แต่อีกช่วงขณะหนึ่งอาจไม่เป็นที่สาธารณสถานก็ได้ เช่น โรงแรม ร้านขายอาหาร ร้านขายสินค้า สถานที่ราชการขณะเปิดทำการ เป็นต้น
               คำว่า “เข้าไป” หมายความว่า อย่างน้อยส่วนใหญ่ของร่างกายของผู้กระทำจะต้องเข้าไป
               ฎีกาที่ ๘๘๓๒/๒๕๕๙ การที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ เข้าไปด่าโจทก์ในบริเวณบ้านของโจทก์ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุข จึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๓๖๒ แต่การที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ เข้าไปในบริเวณบ้านอันเป็นเคหสถานของโจทก์เพื่อด่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นการเข้าไปในเคหสถานของโจทก์โดยไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๓๖๔

ประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้
               (๓) สาธารณสถานหมายความว่า สถานที่ใด ๆ ซึ่งประชาชนมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้
               มาตรา ๓๖๒ ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ เขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ้างอิง
หยุด แสงอุทัย. กฎหมายอาญา ภาค 2-3. ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2548.
ดรัญพงศ์ อภิรมย์วิไลชัย. “ การค้นบุคคลในที่สาธารณสถาน.” วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, 2555.