ตามหนังสือสัญญาซื้อที่ดินระบุว่าเป็นการซื้อขายที่ดิน
หาใช่เป็นการซื้อขายสิทธิครอบครองไม่ และไม่ได้มีข้อความตอนหนึ่งตอนใดแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อกับผู้ขายประสงค์จะให้สัญญาซื้อขายทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดและเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๕๖ วรรคหนึ่ง และ มาตรา ๑๕๒
หลังจากโจทก์และจำเลยทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทจำเลยส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์และโจทก์ได้ชำระราคาให้จำเลยครบถ้วนแล้วต่อมาศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าที่ดินพิพาทบางส่วน
เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตามโฉนดที่ดินของบุคคลภายนอก ทำให้โจทก์ไม่สามารถเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทส่วนที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลภายนอกได้อีกต่อไปตามข้อตกลงในสัญญาก็ตาม
แต่เมื่อสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยตกเป็นโมฆะเท่ากับว่าจำเลยไม่เคยทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับโจทก์
จำเลยจะต้องรับผิดคืนค่าที่ดินทั้งหมดแก่โจทก์ตามข้อตกลงในสัญญาที่ว่า หากต่อไปภายหน้าหากผู้ซื้อไม่สามารถเข้าครอบครองและทำประโยชน์ได้
ทางผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบคืนเงินทั้งหมดให้แก่ผู้ซื้อ ย่อมใช้บังคับก็ต่อเมื่อจำเลยได้ทำสัญญาซื้อขายที่พิพาทกับโจทก์
เมื่อถือว่าจำเลยไม่เคยทำสัญญากับโจทก์จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยรับผิดคืนเงินที่ดินทั้งหมดแก่ตัวตามข้อตกลงในสัญญาได้
แม้สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยจะตกเป็นโมฆะแต่ที่ดินพิพาทบางส่วนเป็นที่ดินมือเปล่าจำเลยมีเพียงสิทธิครอบครอง
การซื้อขายเมื่อได้ส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทส่วนนี้ให้แก่โจทก์ไปแล้ว ก็ฟังได้ว่าจำเลยสละเจตนาครอบครองไม่ยึดถือที่ดินพิพาทส่วนนี้อีกต่อไป
โจทก์ย่อมได้ซึ่งสิทธิครอบครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๗, ๑๓๗๘ จำเลยจึงไม่จำต้องคืนเงินค่าที่ดินพิพาทส่วนนี้ให้แก่โจทก์
และการได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตัวนี้ของโจทก์เป็นการได้มาด้วยการครอบครองตามกฎหมาย
มิใช่เป็นการได้มาตามสัญญาซื้อขายซึ่งตกเป็นโมฆะแล้ว โจทก์ที่ใช้สิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยคืนเงินค่าที่ดินทั้งหมดแก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหาได้ไม่
สำหรับที่ดินพิพาทส่วนที่เป็นของบุคคลภายนอกซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดที่ดิน จำเลยไม่มีสิทธินำมาขายให้แก่โจทก์และต้องคืนเงินค่าที่ดินพิพาทส่วนนี้ให้แก่โจทก์
จำเลยนำที่ดินพิพาทส่วนที่เป็นของบุคคลภายนอกมาขายให้แก่โจทก์โดยจำเลยไม่มีสิทธินำมาขาย
จำเลยจะต้องคืนเงินค่าที่ดินพิพาทส่วนนี้ให้แก่โจทก์ การฟ้องคดีขอให้จำเลยคืนเงินค่าที่ดินในกรณีเช่นนี้ถือเป็นการติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๖ ไม่มีกำหนดอายุความ
เพิ่มเติม
ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ(มาตรา
๑๗๒)
๑.นิติกรรมนั้นเสียเปล่า
๒.ผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งจะ
กล่าวอ้าง ขึ้นก็ได้
๓.ให้สัตยาบันกันไม่ได้
๔.สิ่งที่ให้กันไปต้องคืนให้แก่กันตามบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๕๖ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ
วิธีนี้ให้ใช้ถึงซื้อขายเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย
สัญญาจะขายหรือจะซื้อ
หรือคำมั่นในการซื้อขายทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง
ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ
หรือได้วางประจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้
ให้ใช้บังคับถึงสัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งตกลงกันเป็นราคาสองหมื่นบาท
หรือกว่านั้นขึ้นไปด้วย
มาตรา ๑๕๒ การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้
การนั้นเป็นโมฆะ
มาตรา ๑๓๓๖ ภายในบังคับแห่งกฎหมาย
เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอยและจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น
กับทั้งมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้
และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
0 Comments
แสดงความคิดเห็น