การใช้ทางพิพาทตั้งแต่ยังเป็นคันดินจนกระทั่งภายหลังมีการทำเป็นถนนลูกรังนั้น
เป็นการที่ญาติพี่น้องยินยอมที่จะให้มีการทำและใช้ทางร่วมกันเพื่อที่จะเป็นทางไปออกสู่ทางสาธารณะ
โดยเป็นการทำขณะที่ยังเป็นที่ดินแปลงใหญ่ยังไม่มีการแบ่งเป็นเจ้าของโฉนดอย่างในปัจจุบัน
จึงเท่ากับเจ้าของที่ดินเป็นผู้ยินยอมให้ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดินเดินผ่านทางพิพาทนั้นเอง
เมื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดิน จำเลยร่วมกับโจทก์และญาติพี่น้องทำถนนในทางพิพาท
จึงเป็นการที่จำเลยให้ความยินยอมแก่โจทก์และญาติพี่น้องคนอื่นเดินผ่านที่ดินซึ่งเป็นทางพิพาทนั้นเอง
เป็นการที่โจทก์และญาติพี่น้องคนอื่นใช้สิทธิของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเดินผ่านทางพิพาท
การยินยอมดังกล่าวของจำเลยย่อมไม่อาจก่อให้เกิดสิทธิภาระจำยอมแก่โจทก์ได้
เมื่อโจทก์ใช้สิทธิผ่านทางพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลย จึงไม่เป็นการใช้สิทธิโดยปรปักษ์ต่อจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน
ลักษณะการใช้ทางพิพาทของโจทก์ซึ่งเป็นเรื่องจำเลยให้ความยินยอม หรือเป็นเรื่องการทำโดยวิสาสะในระหว่างญาติพี่น้องกันเช่นนี้
โจทก์ย่อมไม่อาจได้สิทธิภาระจำยอมในทางพิพาท โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงปรากฏเลยว่า
โจทก์ได้เคยมีการเปลี่ยนเจตนาในการใช้ทางพิพาท โดยจะใช้แบบเป็นปรปักษ์ต่อจำเลยเจ้าของที่ดิน
จนกระทั่งวันที่ที่จำเลยขุดดินมาถมถนนบนทางพิพาท
โจทก์จึงไปแจ้งความแต่เมื่อนับจากเวลาดังกล่าวถึงวันฟ้องก็ยังไม่ถึง ๑๐ ปี
โจทก์ย่อมไม่อาจได้สิทธิภาระจำยอมในที่ดินพิพาทได้ การใช้สิทธิในทางพิพาทอันจะได้สิทธิตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๔๐๑ นั้น ต้องเป็นการใช้สิทธิโดยการนำกรรมมาสู่ภารยทรัพย์โดยปรปักษ์
จนครบกำหนดอายุความได้สิทธิตามมาตรา ๑๓๘๒ เมื่อโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยความยินยอมของจำเลย
โดยถือวิสาสะในฐานะเป็นญาติพี่น้องกัน จึงเป็นการกระทำโดยฉันมิตรไม่เข้าลักษณะเป็นการใช้สิทธิโดยปรปักษ์ตามมาตรา
๑๓๘๒ แม้โจทก์จะได้ใช้ทางพิพาทในที่ดินของจำเลยมาเป็นเวลานานเกินกว่า ๑๐ ปี
ก็ไม่อาจทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมตามกฎหมายได้
เพิ่มเติม
ฎีกาที่
๓๐๕๔/๒๕๔๕ การได้สิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๔๐๑ ประกอบมาตรา
๑๓๘๒ นั้น กฎหมายมุ่งประสงค์ให้ถือเอาการใช้ประโยชน์ของเจ้าของสามยทรัพย์เป็นสำคัญ
โดยไม่ได้คำนึงว่าภารยทรัพย์นั้นจะเป็นของผู้ใดหรือเจ้าของสามยทรัพย์จะต้องรู้ตัวว่าใครเป็นเจ้าของภารยทรัพย์นั้น
ดังนั้น แม้โจทก์จะใช้ประโยชน์ในทางพิพาทกว้าง ๒ เมตร
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมีโฉนดของจำเลยรวมไปกับทางสาธารณะกว้าง ๒ เมตร
โดยเข้าใจว่าเป็นทางสาธารณะทั้งหมด ก็ต้องถือว่าโจทก์ได้ใช้ทางพิพาทในลักษณะจะให้ได้สิทธิภาระจำยอมในที่ดินดังกล่าวแล้ว
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๘๒ บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็น
เจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี
ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครอง ติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้
ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
มาตรา ๑๔๐๑ ภาระจำยอมอาจได้มาโดยอายุความ
ท่านให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความได้สิทธิอันกล่าวไว้ในลักษณะ ๓ แห่งบรรพนี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม
0 Comments
แสดงความคิดเห็น