เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งการอายัดสิทธิเรียกร้องไปยังธนาคารทั้งสองเป็นระยะเวลา ๑ เดือน แม้ธนาคารได้ดำเนินการอายัดแล้ว แต่บัญชีเงินฝากในธนาคารหนึ่งมียอดเป็นศูนย์ไม่สามารถนำส่งเงินให้ได้ และเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่ขออายัด ๑ เดือน คำสั่งอายัดย่อมสิ้นผลไป ส่วนบัญชีเงินฝากอีกธนาคารหนึ่งไม่สามารถอายัดเงินฝากได้เนื่องจากบัญชีปิดแล้ว ถือว่าไม่มีสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ ๑ ในบัญชีเงินฝากธนาคารทั้งสองแห่งตามที่โจทก์ขอให้อายัด ความรับผิดในค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีกรณีอายัดแล้วไม่มีการขาย หรือจำหน่ายตามตาราง ๕ ข้อ ๔ ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้ โจทก์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการอายัดตามคำสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดี

               ตามฎีกานี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมกรณีอายัดไม่เป็นผล จำนวน ๗๘,๙๗๗.๐๔ บาท โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนหรือแก้ไขคำสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดี คดีนี้ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีที่มีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมการอายัด...

เพิ่มเติม
               ฎีกาที่ ๕๓๔๗/๒๕๕๑ โจทก์เป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินในบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 325-2-14XXX-X เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีหนังสือแจ้งอายัดไปยัดไปยังธนาคาร ก. ตามที่โจทก์แถลงขอและธนาคาร ก. ได้รับหนังสือแจ้งอายัดแล้ว กรณีจึงต้องถือว่าได้มีการอายัดไว้โดยชอบตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๓๑๑ แล้ว เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการอายัด เนื่องจากบัญชีออมทรัพย์เลขที่ดังกล่าวมิใช่เป็นบัญชีของจำเลย โจทก์ผู้ขอให้อายัดจึงมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายตามตาราง ๕ ข้อ ๔ ท้าย ป.วิ.พ. การที่ปรากฏในภายหลังว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ขออายัดนั้นไม่ใช่ของจำเลย และธนาคารมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบภายหลังที่ได้รับหนังสืออายัดแล้ว โจทก์จะยกมาเป็นข้ออ้างให้พ้นความรับผิดในค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีหาได้ไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์