โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถจักรยานยนต์
ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.๒๕๓๕ ไว้จาก อ. หากมีความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายเกิดขึ้นแก่ผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากรถจักรยานยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัย
โจทก์ต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยให้เสร็จสิ้นภายใน ๗ วัน
นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิดก่อน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.๒๕๓๕ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๕
แล้วโจทก์มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายได้
ตามมาตรา ๓๑ การที่โจทก์จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล ธ.
ให้แก่โรงพยาบาลซึ่งเป็นค่าเสียหายเบื้องต้นแล้วมาฟ้องเรียกร้องให้จำเลย
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น เป็นการใช้สิทธิไล่เบี้ยตาม
พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว อันเป็นสิทธิไล่เบี้ยที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย
การฟ้องคดีนี้มิใช่เป็นกรณีที่โจทก์รับช่วงสิทธิผู้ประสบภัยมาฟ้องเรียกร้องเอาแก่จำเลยที่ต้องฟ้องภายใน
๑ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๔๔ วรรคหนึ่ง
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.๒๕๓๒ มาตรา ๓๑ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๑๓ ที่บัญญัติให้การใช้สิทธิตามวรรคหนึ่ง
ต้องกระทำภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้ตัวผู้ซึ่งต้องรับผิด
แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนตามหมวดนี้ให้แก่ผู้ประสบภัย
ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๐
ดังนั้น การใช้สิทธิไล่เบี้ยตามมาตรา ๓๑ ภายหลังจากวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.๒๕๓๕ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๐ มีผลใช้บังคับ เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ
๑๐ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๙๓/๓๐ มิใช่มีอายุความ ๑ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๔๔ วรรคหนึ่ง
เมื่อนับตั้งแต่ที่โจทก์จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดียังไม่พ้นกำหนด
๑๐ ปี ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.๒๕๓๕
มาตรา ๓๑
ในกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลภายนอก
หรือเกิดขึ้นเพราะความจงใจหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าของรถผู้ขับขี่รถ
ผู้ซึ่งอยู่ในรถ หรือผู้ประสบภัย
เมื่อบริษัทได้จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นหรือค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อสำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยได้จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัย
หรือเมื่อหน่วยงานตามมาตรา ๘ (๑) (๒) (๓) หรือเจ้าของรถตามมาตรา ๘ (๔)
ได้จ่ายเงินคืนกองทุนตามมาตรา ๓๒ ไปแล้วจำนวนเงินเท่าใดให้บริษัท หรือสำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยหรือหน่วยงานตามมาตรา
๔ (๑) (๒) (๓) หรือเจ้าของรถตามมาตรา ๘ (๔) แล้วแต่กรณี
มีสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลดังกล่าวหรือมีสิทธิเรียกให้ผู้ประสบภัยคืนเงินดังกล่าวได้
วรรคสอง (ยกเลิก)
0 Comments
แสดงความคิดเห็น