ในคดีสามัญโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามตั๋วเงินที่จำเลยสั่งจ่ายแก่โจทก์แล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก
จึงสั่งให้นำบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้บังคับ
โดยศาลชั้นต้นออกหมายเรียกตามมาตรา ๑๙๓ วรรคหนึ่ง อย่างคดีมโนสาเร่ จำเลยได้รับหมายเรียกให้มาศาลโดยชอบแล้วไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี
เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การไว้จึงถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ตามมาตรา ๑๙๓
ทวิ วรรคสอง การที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้วต่อมาจำเลยมาศาลก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีและแจ้งว่าตนประสงค์จะต่อสู้คดี
ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไรต่อไปนั้น มิได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในหมวดวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่โดยเฉพาะ
แต่มาตรา ๑๙๕ บัญญัติให้นำบทบัญญัติอื่นในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับแก่การพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีมโนสาเร่ด้วยโดยอนุโลม
จึงต้องนำบทบัญญัติในหมวดว่าด้วยการพิจารณาโดยขาดนัด ส่วนที่ ๑ การขาดนัดยื่นคำให้การ
มาตรา ๑๙๙ มาใช้บังคับ
ในคดีไม่มีข้อยุ่งยาก
จำเลยไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาและไม่ยื่นคำให้การ อันถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไปแล้ว
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๓ ทวิ วรรคสอง ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปฝ่ายเดียว
และเมื่อศาลชั้นต้นเลื่อนคดีไปสืบพยานโจทก์ที่เหลือ จำเลยมาศาลและขออนุญาตยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนให้ได้ความจริงว่าการขาดนัดยื่นคำให้การนั้นมิได้เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่เสียก่อน
การที่ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าการขาดนัดยื่นคำให้การของจำเลยเป็นไปโดยจงใจจึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ย่อมเป็นกระบวนพิจารณาโดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๙ วรรคสอง
ประกอบมาตรา ๑๙๕ แล้ว เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
จึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องสอบคำให้การจำเลยหรือจัดให้เจ้าพนักงานของศาลจดบันทึกรายละเอียดคำให้การของจำเลยลงในแบบพิมพ์
ม.๒ อีก
ตามฎีกานี้
จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับหมายเรียกด้วยตนเองแต่ไม่มาศาลหรือแจ้งเหตุขัดข้องหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาศาลแทน
พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการจงใจไม่มาศาล จึงไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปและพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๙๓ ในคดีมโนสาเร่
ให้ศาลกำหนดวันนัดพิจารณาโดยเร็วและออกหมายเรียกไปยังจำเลยในหมายนั้นให้จดแจ้งประเด็นแห่งคดีและจำนวนทุนทรัพย์หรือราคาที่เรียกร้อง
และข้อความว่าให้จำเลยมาศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยานในวันเดียวกัน
และให้ศาลสั่งให้โจทก์มาศาลในวันนัดพิจารณานั้นด้วย
ในวันนัดพิจารณา
เมื่อโจทก์และจำเลยมาพร้อมกันแล้ว ให้ศาลไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ตกลงกันหรือ
ประนีประนอมยอมความกันในข้อที่พิพาทนั้นก่อน
ถ้าคู่ความไม่อาจตกลงกันหรือไม่อาจประนีประนอมยอมความกันได้และจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การให้
ศาลสอบถามคำให้การของจำเลย โดยจำเลยจะยื่นคำให้การเป็นหนังสือ
หรือจะให้การด้วยวาจาก็ได้ ในกรณี ยื่นคำให้การเป็นหนังสือให้นำมาตรา ๑๙๑ วรรคสอง
มาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีให้การด้วยวาจา ให้ศาลบันทึกคำให้การรวมทั้งเหตุการณ์นั้นไว้
อ่านให้จำเลยฟัง แล้วให้จำเลยลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ
ถ้าจำเลยไม่ให้การตามวรรคสาม
ให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจมีคำสั่งไม่ยอมเลื่อนเวลาให้จำเลยยื่นคำให้การ
โดยให้ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดโดยนำมาตรา
๑๙๘ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้สืบพยาน ก็ให้ศาลดำเนินการต่อไปตามมาตรา
๑๙๓ ตรี มาตรา ๑๙๓ จัตวา และมาตรา ๑๙๓ เบญจ
มาตรา ๑๙๓ ทวิ
ในคดีมโนสาเร่ เมื่อโจทก์ได้ทราบคำสั่งให้มาศาลตามมาตรา ๑๙๓ แล้วไม่มาในวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดีให้ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป
ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ
เมื่อจำเลยได้รับหมายเรียกให้มาศาลตามมาตรา
๑๙๓ แล้วไม่มาในวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี ถ้าจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การไว้ให้ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและให้ศาลมีคำพิพากษา
หรือคำสั่งโดยนำมาตรา ๑๙๘ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้าจำเลยได้ยื่นคำให้การไว้ก่อนหรือในวันนัดดังกล่าว
ให้ถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และให้บังคับตามมาตรา ๒๐๔ มาตรา ๒๐๕ มาตรา ๒๐๖ และมาตรา
๒๐๗ และไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ถ้าศาลมีคำสั่งให้สืบพยานก็ให้ศาลดำเนินการต่อไปตามมาตรา
๑๙๓ ตรี มาตรา ๑๙๓ จัตวา และมาตรา ๑๙๓ เบญจ
มาตรา ๑๙๕ นอกจากที่บัญญัติมาแล้ว
ให้นำบทบัญญัติอื่นในประมวลกฎหมายนี้มาใช้บังคับแก่การพิจารณาและการชี้ขาดตัดสินคดีมโนสาเร่ด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๑๙๖ ในคดีสามัญซึ่งโจทก์ฟ้องเพียงขอให้ชำระเงินจำนวนแน่นอนตามตั๋วเงินซึ่งการรับรองหรือ
การชำระเงินตามตั๋วเงินนั้นได้ถูกปฏิเสธ หรือตามสัญญาเป็นหนังสือซึ่งปรากฏในเบื้องต้นว่าเป็นสัญญาอันแท้จริงมีความสมบูรณ์และบังคับได้ตามกฎหมาย
โจทก์จะยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลพร้อมกับคำฟ้อง
ขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นโดยรวบรัดก็ได้
ถ้าศาลเห็นว่าคดีตามวรรคหนึ่งนั้นปรากฏในเบื้องต้นว่าเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก
ไม่ว่าโจทก์จะได้ยื่นคำขอตามวรรคหนึ่งหรือไม่ ให้ศาลมีคำสั่งให้นำบทบัญญัติในหมวดนี้ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่
เว้นแต่มาตรา ๑๙๐ จัตวา มาใช้บังคับแก่คดีเช่นว่านั้นได้
ถ้าในระหว่างการพิจารณาปรากฏว่าคดีไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรานี้
ศาลอาจมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไปตามข้อบังคับแห่งคดีสามัญได้
มาตรา ๑๙๙ ถ้าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การมาศาลก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีและแจ้งต่อศาลในโอกาสแรกว่าตนประสงค์จะต่อสู้คดี
เมื่อศาลเห็นว่าการขาดนัดยื่นคำให้การนั้นมิได้เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควร
ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรและดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่เวลาที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง
ถ้าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การมิได้แจ้งต่อศาลก็ดี หรือศาลเห็นว่าการขาดนัดยื่นคำให้การนั้นเป็นไปโดยจงใจหรือไม่มีเหตุอันสมควรก็ดี
ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ในกรณีเช่นนี้ จำเลยอาจถามค้านพยานโจทก์ที่อยู่ระหว่างการสืบได้
แต่จะนำสืบพยานหลักฐานของตนไม่ได้
ในกรณีที่จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง
หรือศาลไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การตามวรรคสอง หรือศาลเคยมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ตามคำขอของจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การตามมาตรา
๑๙๙ ตรี มาก่อน จำเลยนั้นจะขอยื่นคำให้การตามมาตรานี้อีกหรือจะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้
0 Comments
แสดงความคิดเห็น