พนักงานตรวจแรงงานวินิจฉัยและมีคำสั่งว่า
จำเลยมิใช่ลูกจ้างโจทก์ แต่จำเลยเป็นผู้รับเหมาช่วงและเป็นนายจ้างของผู้ร้องทั้งเก้า
ให้โจทก์ในฐานะเป็นผู้รับเหมาชั้นต้นร่วมรับผิดกับจำเลยในค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา
และค่าทำงานในวันหยุดแก่ผู้ร้องทั้งเก้า หากจำเลยไม่พอใจคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานย่อมมีสิทธินำคดีไปสู่ศาลแรงงานเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งภายใน
๓๐ วัน นับแต่วันทราบคำสั่งได้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา
๑๒๕ วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยไม่นำคดีไปสู่ศาลแรงงาน คำสั่งพนักงานตรวจแรงงานย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา
๑๒๕ วรรคสอง และผูกพันจำเลย จำเลยหามีสิทธิยกเรื่องการเป็นนายจ้างลูกจ้างกันและผู้รับเหมาช่วงซึ่งยุติไปแล้วในชั้นพนักงานตรวจแรงงานและมีผลผูกพันจำเลย
จำเลยกล่าวอ้างในชั้นที่โจทก์ฟ้องต่อศาลแรงงานภาค ๒ เพื่อใช้สิทธิไล่เบี้ยเงินที่จ่ายตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานไปแล้วคืนจากจำเลย
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๑๒ วรรคสอง ได้ไม่
โจทก์ในฐานะผู้รับเหมาชั้นต้นได้จ่ายเงินที่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยในฐานะผู้รับเหมาช่วงซึ่งเป็นนายจ้างของผู้ร้องทั้งเก้าตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานไปแล้ว
โจทก์จึงมีสิทธิไล่เบี้ยเงินดังกล่าวคืนจากจำเลย จำเลยต้องรับผิดคืนเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
ตามพระราช บัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๑๒ วรรคสอง แต่เมื่อหนี้เงินนั้นไม่มีกำหนดเวลาให้ต้องจ่ายกันเมื่อใด
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๐๓ วรรคหนึ่ง การนับเวลาผิดนัดต้องมีการทวงถามเมื่อใดเสียก่อน
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๐๔ วรรคหนึ่ง ไม่อาจถือเอาวันที่โจทก์ได้จ่ายให้แก่ผู้ร้องทั้งเก้าไปเป็นวันผิดนัด
เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ทวงถามเมื่อใด ต้องถือว่าโจทก์ได้ทวงถามเมื่อฟ้อง จำเลยต้องชำระดอกเบี้ยระหว่างผิดนัด
อัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๔ วรรคหนึ่ง
นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑
มาตรา ๑๒
ในกรณีที่นายจ้างเป็นผู้รับเหมาช่วง ให้ผู้รับเหมาช่วงถัดขึ้นไป หากมีตลอดสาย
จนถึงผู้รับเหมาชั้นต้นร่วมรับผิดกับผู้รับเหมาช่วงซึ่งเป็นนายจ้างในค่าจ้าง
ค่าล่วงเวลา ค่าทำงาน ในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด ค่าชดเชย ค่าชดเชยพิเศษ
เงินสะสม เงินสมทบ หรือเงินเพิ่ม
ให้ผู้รับเหมาชั้นต้นหรือผู้รับเหมาช่วงตามวรรคหนึ่ง
มีสิทธิไล่เบี้ยเงินที่ได้จ่ายไปแล้วตามวรรค
หนึ่งคืนจากผู้รับเหมาช่วงซึ่งเป็นนายจ้าง
มาตรา ๑๒๕
เมื่อพนักงานตรวจแรงงานได้มีคำสั่งตามมาตรา ๑๒๔ แล้ว ถ้านายจ้าง ลูกจ้าง หรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตายไม่พอใจคำสั่งนั้น
ให้นำคดีไปสู่ศาลได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่ง
ในกรณีที่นายจ้าง
ลูกจ้าง หรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตายไม่นำคดีไปสู่ศาลภายในกำหนด
ให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุด
ในกรณีที่นายจ้างเป็นฝ่ายนำคดีไปสู่ศาล
นายจ้างต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่ถึงกำหนดจ่ายตามคำสั่งนั้น จึงจะฟ้องคดีได้
เมื่อคดีถึงที่สุดและนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินจำนวนใดให้แก่ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตาย
ให้ศาลมีอำนาจจ่ายเงินที่นายจ้างวางไว้ต่อศาลให้แก่ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตาย
หรือกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างในกรณีที่ได้จ่ายเงินตามมาตรา ๑๓๔ ได้ แล้วแต่กรณี
0 Comments
แสดงความคิดเห็น