จำเลยสมัครใจที่จะเข้าวิวาทต่อสู้กับผู้เสียหายกับพวกและเข้าสู้ภัยโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ
แม้ผู้เสียหายกับพวกมีมีดและสนับมือเป็นอาวุธ
จำเลยก็ไม่มีสิทธิใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยอ้างเหตุป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยพาอาวุธปืนลูกซองยาวที่ซุกซ่อนไว้มายิงผู้เสียหาย
จึงมิใช่กรณีที่มีเหตุสมควรหรือมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นและฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน
หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยเปิดเผย และโดยไม่มีเหตุสมควร
ตามฎีกานี้
ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายกับพวกพูดจาหาเรื่องจำเลยที่บ้านของ ศ. เมื่อผู้เสียหายกับพวกมีอาวุธไปยังที่เกิดเหตุ(สนามกีฬา)ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของจำเลยแสดงว่าผู้เสียหายกับพวกยังคงต้องการหาเรื่องกับจำเลยอีก
การที่จำเลยพูดกับผู้เสียหายกับพวกว่า “มึงจะกินปืนหรือกินมีด ที่มาหากูวันนี้”
ทั้ง ๆ ที่ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าผู้เสียหายกับพวกเคยหาเรื่องจำเลยมาก่อน
จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างผู้เสียหายกับพวกและจำเลยอย่างแน่นอน
แม้จำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องหลบหนีก็ตาม
แต่หากจำเลยไม่สมัครใจที่จะวิวาทหรือต่อสู้กับผู้เสียหายกับพวกแล้ว
จำเลยก็ชอบที่จะไม่พูดโต้ตอบหรือหลีกเลี่ยงไปเสียจากที่เกิดเหตุดังเช่นที่จำเลยเคยกระทำที่บ้านของ
ศ. แล้ว แต่จำเลยกลับไปนำอาวุธปืนลูกซองยาวที่ซุกซ่อนไว้แล้วเดินไปหาผู้เสียหายกับพวก
พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยสมัครใจที่จะเข้าวิวาทต่อสู้กับผู้เสียหายกับพวกและเข้าสู้ภัยโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ
จำเลยนำอาวุธปืนเดินไปหาผู้เสียหายกับพวกทางสนามกีฬา จำเลยจึงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง
หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยเปิดเผย และโดยไม่มีเหตุสมควร
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๖๘ ผู้ใดต้องกระทำ การใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำ พอสมควรแก่เหตุ
การกระทำ นั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้นั้นไม่มีความผิด
0 Comments
แสดงความคิดเห็น