หนี้ตามคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยโอนรถยนต์ที่มีทะเบียนการค้าและใบอนุญาตประกอบการขนส่งให้แก่บุตร
เป็นหนี้ที่จำเลยยังไม่อาจปฏิบัติการชำระหนี้เพราะบุตรไม่มีทะเบียนการค้าหรือใบประกอบการขนส่ง
สภาพแห่งการบังคับคดีไม่ เปิดช่องให้กระทำได้
หนี้ตามคำ พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำ เลยชำ ระหนี้จำ นองแก่ธนาคารจนเสร็จสิ้นแล้วโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จำ นองให้บุตร ถือว่าเป็นหนี้ที่จำ เลยจะต้องทำ การไถ่ถอนทรัพย์สินซึ่งจำ นองให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงจะโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้นให้แก่บุตร
มิใช่หนี้ตามคำ พิพากษาที่กำ หนดให้จำ เลยชำ ระหนี้จำ นองหนึ่งแก่โจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำ พิพากษา สภาพแห่งการบังคับคดีที่จะบังคับจำเลยปฏิบัติตามคำ พิพากษาตามยอมก็ดี หรือชำ ระหนี้ไถ่ถอนก็ดี
มิใช่เรื่องที่เปิดช่องให้ทำ ได้โดยทางเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำ พิพากษาไม่อาจร้องขอต่อศาลชั้นต้นเพื่อให้ออกบังคับคดี
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๕ (เดิม) ประกอบมาตรา ๒๗๖ (เดิม)
แม้จำ เลยได้โอนทะเบียนรถยนต์เป็นชื่อของบุตรและรถยนต์บางคันมีชื่อโจทก์เป็นผู้มีชื่อทางทะเบียนแต่รถยนต์เป็นสังหาริมทรัพย์
การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ตามคำ พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความแก่บุตร
จำ เลยจะต้องมีการส่งมอบทรัพย์ด้วย
เมื่อจำ เลยยังไม่ได้ส่งมอบรถยนต์แก่บุตร
ถือว่ายังไม่ได้ปฏิบัติตามคำ พิพากษาตามยอม
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำ พิพากษามีสิทธิขอให้ดำ เนินการบังคับคดี
โดยทางเจ้าพนักงานบังคับคดีแก่จำ เลยได้
ศาลชอบที่จะให้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีในหนี้ส่วนนี้
ตามฎีกานี้
โจทก์ยื่นคำ ขอยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดี
เจ้าพนักงานบังคับคดี ยกคำ ขอ
โจทก์ยื่นคำ ร้องว่า คำ สั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ยกคำ ขอยึดทรัพย์ของโจทก์โดยอ้างว่า
สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นเรื่องแบ่งทรัพย์สินระหว่างโจทก์และจำ เลย มิได้ระบุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำ นาจในการยึดทรัพย์หรือบังคับชำ ระหนี้แก่โจทก์ ทั้งสภาพแห่งการบังคับคดีไม่เปิดช่องให้ทำ ได้โดยทางเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็น คำ สั่งที่ไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนคำ สั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีและให้รับคำขอยึดทรัพย์ของโจทก์ไว้ดำ เนินการต่อไป
เพิ่มเติม
คำขอฝ่ายเดียวที่ให้ศาลออกหมายบังคับคดีต้องถือว่าเป็นคำขอฝ่ายเดียวโดยเคร่งครัด
ศาลจะฟังคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง หรือคู่ความอื่นๆ ก่อนออกคำสั่งไม่ได้ (เทียบฎีกาที่
๖๔๙๘/๒๕๕๘)
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๗๕(ใหม่)
ถ้าเจ้าหนี้ตามคำ พิพากษาจะขอให้มีการบังคับคดี
ให้ยื่นคำ ขอฝ่ายเดียวต่อศาลให้บังคับคดีโดยระบุให้ชัดแจ้งซึ่ง
(๑)
หนี้ที่ลูกหนี้ตามคำ พิพากษายังมิได้ปฏิบัติตามคำ บังคับ
(๒)
วิธีการที่ขอให้ศาลบังคับคดีนั้น
ในระหว่างที่ศาลยังมิได้กำ หนดวิธีการบังคับคดีตามที่เจ้าหนี้ตามคำ พิพากษามีคำ ขอตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีเหตุจำเป็น เจ้าหนี้ตามคำ พิพากษาจะยื่นคำ ขอฝ่ายเดียวต่อศาลให้มีคำ สั่งกำ หนดวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของตนไว้ก่อนก็ได้
และถ้าศาลเห็นสมควร จะมีคำ สั่งอนุญาตโดยไม่ต้องไต่สวนก็ได้
ในกรณีเช่นว่านี้ ลูกหนี้ตามคำ พิพากษาอาจยื่นคำ ขอโดยพลันให้ศาลยกเลิกคำ สั่งอนุญาตดังกล่าวได้ คำ ขอเช่นว่านี้อาจทำ เป็นคำ ขอฝ่ายเดียวโดยได้รับอนุญาตจากศาล และถ้าศาลเห็นสมควรจะมีคำ สั่งยกเลิกคำ สั่งอนุญาตนั้นโดยไม่ต้องไต่สวนก็ได้ คำ สั่งของศาลตามวรรคนี้ให้เป็นที่สุด
ในกรณีที่ศาลมีคำ สั่งคุ้มครองประโยชน์ของเจ้าหนี้ตามคำ พิพากษาตามวรรคสองแล้ว คำ สั่งนั้นยังคงมีผลต่อไปเท่าที่จำ เป็นเพื่อปฏิบัติตามคำ พิพากษาหรือคำ สั่งของศาล
0 Comments
แสดงความคิดเห็น