การแย่งการครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๕ วรรคสอง
จะมีได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น เมื่อจำเลยให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยโดยจำเลยครอบครองมาตั้งแต่ปี
๒๕๑๑ จนถึงปัจจุบัน อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยเป็นเจ้าของครอบครองที่ดินพิพาทมาแต่ต้น
โดยจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าแย่งการครอบครองมาจากผู้ใด
คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยแย่งการครอบครอง
กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า
โจทก์ทั้งสองฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกินกว่า ๑ ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองหรือไม่
ตามฎีกานี้
จำเลยให้การว่า จำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตั้งแต่ปี ๒๕๑๑
จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิว่าได้แย่งการครอบครองที่ดินพิพาทแล้ว ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค ๖
วินิจฉัยว่า คำให้การของจำเลยไม่ก่อให้เกิดประเด็นเรื่องการแย่งการครอบครอง
เพิ่มเติม
ฎีกาที่
๗๗๔๒/๒๕๕๔ จำ เลยให้การว่า จำ เลยครอบครองที่ดินพิพาทเพราะผู้ร้องสอดซึ่งเป็นบิดายกให้และจำ เลยได้ครอบครองทำ ประโยชน์ตลอดมา ส่วนผู้ร้องสอดร้องสอดว่า
ครอบครองที่ดินพิพาทเพราะบิดายกให้ ผู้ร้องสอดทำ ประโยชน์ตลอดมาและแบ่งที่ดินพิพาทบางส่วนให้แก่จำ เลยปลูกบ้านพักอาศัย เมื่อโจทก์ยื่นคำ ขอออกโฉนดที่ดิน จำ เลยและผู้ร้องสอดคัดค้านจนเจ้าพนักงานที่ดินไม่ออกโฉนดที่ดินให้แก่โจทก์
โจทก์ฟ้องขอปลดเปลื้องการครอบครองเป็นเวลา ๑ ปี นับแต่วันที่ถูกแย่งการครอบครอง
จึงเสียสิทธิในการฟ้องคดี ดังนี้ คดีไม่มีปัญหาเรื่องแย่งการครอบครอง
เพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดขึ้นได้ก็แต่เฉพาะที่ดินที่เป็นของผู้อื่น เมื่อจำ เลยและผู้ร้องสอดอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของตนเองและได้ครอบครองทำ ประโยชน์เอง
จึงไม่เป็นการแย่งการครอบครองที่ดินจากโจทก์ การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า
โจทก์ฟ้องคดีเกิน ๑ ปี นับแต่ถูกแย่งการครอบครอง
จึงไม่มีสิทธิฟ้องเอาคืนการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๕ วรรคสอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๗๕ ถ้าผู้ครอบครองถูกแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายไซร้ท่านว่าผู้ครอบครองมีสิทธิจะได้คืนซึ่งการครอบครอง
เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเหนือทรัพย์สินดีกว่าซึ่งจะเป็นเหตุให้เรียกคืนจากผู้ครอบครองได้
การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้น
ท่านว่าต้องฟ้องภายในปีหนึ่งนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง
0 Comments
แสดงความคิดเห็น