โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงกระทำความผิดต่อผู้ตาย
อันเป็นการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
ประกอบมาตรา ๗๒ ศาลอุทธรณ์ภาค ๙ เห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๗๒ เท่ากับว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค
๙ พิพากษายกฟ้องในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
ฎีกาของโจทก์ร่วมทั้งสองที่ ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๘๘ ตามฟ้อง โดยอ้างว่าการกระทำของจำเลยมิใช่การกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ
จึงเป็นการฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาคพิพากษายกฟ้อง
ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐
คดีส่วนแพ่งที่โจทก์ร่วมทั้งสองฎีกาขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมทั้งสอง
โดยโจทก์ร่วมทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกามาพร้อมฎีกา เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกาในคดีส่วนแพ่งของโจทก์ร่วมทั้งสองแล้ว
คดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้อนี้ของโจทก์ร่วมทั้งสอง
ตามฎีกานี้
ข้อหาฆ่าผู้อื่นจำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
สำหรับคดีส่วนแพ่งการฎีกาต้องขออนุญาตฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๔๗
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๒๒๐
ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์
มาตรา ๒๒๑
ในคดีซึ่งห้ามฎีกาไว้โดยมาตรา ๒๑๔, ๒๑๕ และ ๒๒๐ แห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณา
หรือลงชื่อในคำ พิพากษาหรือทำ ความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำ คัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา
หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย
ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๔๗ การฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์
ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
การขออนุญาตฎีกา ให้ยื่นคำร้องพร้อมกับคำฟ้องฎีกาต่อศาลชั้นต้นที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีนั้นภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์
แล้วให้ศาลชั้นต้นรีบส่งคำร้องพร้อมคำฟ้องฎีกาดังกล่าวไปยังศาลฎีกา
และให้ศาลฎีกาพิจารณาวินิจฉัยคำร้องให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
0 Comments
แสดงความคิดเห็น