กำแพงคอนกรีตด้านหลังอาคารพาณิชย์โครงการตลาด
นอกจากจะบ่งบอกถึงแนวเขตที่ดินโครงการจัดสรรที่ดินของโจทก์แล้ว ยังมีสภาพเพื่อป้องกันทั้งบุคคลภายนอกและบุคคลที่อาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ทุกคนจำต้องเข้าออกตามทางที่โจทก์กำหนดเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยให้แก่บุคคลทุกคนที่อาศัยอยู่ในโครงการจัดสรรและบุคคลทั่วไปที่เข้ามาติดต่อหรือค้าขาย
กำแพงคอนกรีตจึงเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์ที่โจทก์ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อให้ที่ดินจัดสรรใช้ประโยชน์ร่วมกันจึงเป็นสาธารณูปโภคตามความหมายของพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ และ ๔๓ โดยไม่จำต้องระบุไว้ในคำขออนุญาตทำการจัดสรรที่ดินเสมอไป
ทั้งพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินมิได้บังคับหรือจำกัดไว้ว่าสิ่งที่เป็นสาธารณูปโภคต้องเป็นสิ่งระบุไว้ในคำขออนุญาตทำการจัดสรรที่ดิน
หรือเอกสารการอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน
ตามคำ ฟ้องและทางนำ สืบของโจทก์ยอมรับว่า
กำ แพงคอนกรีตในส่วนที่อยู่ในโฉนดที่ดินของจำ เลยเป็นของจำ เลย การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ วินิจฉัยว่า
โจทก์มิได้มีเจตนาขายที่ดินส่วนที่เป็นที่ตั้งของกำ แพงคอนกรีต จึงเป็นการวินิจฉัยขัดกับข้อเท็จจริงในสำ นวน เป็นการไม่ชอบ กำ แพงคอนกรีตจึงเป็นส่วนควบของที่ดินจำ เลย
โจทก์สร้างกำ แพงคอนกรีตลงในที่ดินจัดสรรส่วนที่คาดหมายว่าเป็นส่วนที่จะต้องแบ่งแยกเป็นแปลงย่อยปลูกสร้างอาคารพาณิชย์จัดสรรขายแก่ผู้ซื้อทั่วไปอันมีผลทำ ให้กำ แพงคอนกรีตที่สร้างไว้ต้องกระจายไปอยู่บนที่ดินที่แบ่งแยกและแบ่งขายแก่ผู้ซื้อทุกแปลงก็เพราะโจทก์ไม่อาจแบ่งแยกที่ดินเฉพาะส่วนที่มีกำ แพงคอนกรีตปลูกสร้างอยู่นั้นออกเป็นที่ดินแปลงย่อย
เนื่องจากเป็นการแบ่งแยกที่ดินออกเป็นแนวตะเข็บหรือมีเศษเป็นเสี้ยวเป็นการต้องห้ามตามข้อกำ หนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดิน พ.ศ.๒๕๓๕
ข้อ ๑๕ ซึ่งเป็นข้อกำ หนดที่ออกตามความในข้อ
๗ (๑) และข้อ ๙ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๘๖ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๒๕
อันเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะโจทก์ดำ เนินการจัดสรรที่ดินและก่อสร้างกำ แพงคอนกรีตในปี ๒๕๔๑ เป็นต้นมา แต่โดยที่กำ แพงคอนกรีตมีสภาพเป็นสาธารณูปโภคที่จะต้องตกติดไปกับที่ดินจัดสรรตลอดไป
การที่จำ เลยทุบทำ ลายกำ แพงคอนกรีตแล้วทำ เป็นทางเข้าออกไปสู่ที่ดินแปลงอื่นนอกโครงการจัดสรรของโจทก์เพื่อประโยชน์สำ หรับจำ เลย บริวาร ลูกจ้างและลูกค้าในกิจการค้าของจำ เลยโดยไม่ต้องใช้เส้นทางถนนในโครงการจัดสรรของโจทก์ไปออกถนนสาธารณะ
ไม่ต้องผ่านทางเข้าออกที่โจทก์กำ หนด
และไม่ต้องผ่านระบบการรักษาความปลอดภัยของโจทก์เหมือนเจ้าของที่ดินในโครงการรายอื่น
ๆ ย่อมมีผลกระทบต่อระบบการรักษาความปลอดภัย การจราจร การรักษาความสงบเรียบร้อยของโจทก์และผู้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงอื่น
ถือว่าเป็นการทำให้ประโยชน์แห่งภาระจำ ยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกแก่
เจ้าของที่ดินแปลงอื่นในโครงการจัดสรรของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์
จึงเป็นการใช้สอยกำ แพงคอนกรีตขัดต่อสิทธิเจ้าของคนอื่น
โจทก์ในฐานะเจ้าของรวมและในฐานะผู้มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินในการบำ รุงรักษากำ แพงคอนกรีตแทนเจ้าของสามยทรัพย์ทั้งปวง ย่อมมีอำ นาจฟ้องขอให้สั่งห้ามจำ เลยกระทำ การที่ขัดต่อบทกฎหมาย
จำ เลยทุบทำ ลายกำ แพงคอนกรีตซึ่งเป็นสาธารณูปโภคเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำ ยอมลดลงไปหรือเสื่อมความสะดวก
อันเป็นการทำ ละเมิดต่อโจทก์
แต่โจทก์ในฐานะผู้จัดสรรที่ดินซึ่งมีหน้าที่บำรุงรักษาสาธารณูปโภคให้คงสภาพเช่นเดิมตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง และในฐานะ เจ้าของที่ดินแปลงอื่นซึ่งเป็นสามยทรัพย์ฟ้องให้ก่อสร้างกำ แพงคอนกรีตให้คืนสภาพเดิม
ไม่ได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากการถูกทำละเมิด จึงไม่จำ ต้องฟ้องคดีภายใน ๑ ปี นับแต่วันรู้ถึงการละเมิด
และรู้ตัวผู้จะพึ่งต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ
แม้การทุบทำ ลายกำ แพงคอนกรีตซึ่งเป็นสาธารณูปโภคเป็นการทำ ต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายทำ ให้โจทก์ได้รับความเสียหายเกี่ยวกับทรัพยสิทธิซึ่งจำ เลยมีหน้าที่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๒๐ แต่โจทก์ก็ยังมีสิทธิขอบังคับให้จำ เลยซึ่งเป็นเจ้าของภารยทรัพย์กระทำ การอย่างใดที่ทำ ให้ประโยชน์หรือความสะดวกแห่งภารยทรัพย์กลับคืนมาดังเดิม
ซึ่งการติดตามเอากำ แพงคอนกรีตที่ถูกทบทำ ลายคืนมาเป็นการทำให้ประโยชน์แห่งภาระจำ ยอมกลับขึ้นมาตามเดิมก็คือการซ่อมหรือสร้างกำแพงคอนกรีตให้กลับคืนสภาพตามที่เป็นอยู่เดิม
โจทก์จึงมีอำ นาจตามกฎหมายที่จะขอบังคับให้จำ เลยซ่อมหรือสร้างกำ แพงคอนกรีตให้กลับคืนสภาพเดิมได้
และหากจำ เลยไม่ได้ดำ เนินการ ศาลย่อมมี อำ นาจพิพากษาหรือมีคำ สั่งให้โจทก์ว่าจ้างบุคคลภายนอกซ่อมหรือสร้างกำ แพงคอนกรีตแทน โดยให้จำ เลยเสียค่าใช้จ่ายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๒๑๓ วรรคสอง
คำ พิพากษาของศาลที่ห้ามจำ เลยกระทำ การใด
ๆ ต่อกำ แพงคอนกรีตที่จะต้องสร้างขึ้นใหม่อันจะเป็นการกระทำ ให้กำ แพงคอนกรีตเสื่อมสภาพหรือประโยชน์แห่งภาระจำ ยอมลดลง เป็นการใช้อำนาจขัดขวางป้องกันมิให้จำ เลยกระทำซ้ำ หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกำแพงคอนกรีตที่จะต้องสร้างขึ้นใหม่โดยมิชอบ
เป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารยทรัพย์ลดไปหรือเสื่อมความสะดวกเหมือนอย่างเช่นที่จำ เลยได้เคยกระทำ มาแล้ว และมีแนวโน้มว่าจำ เลยจะกระทำ ซ้ำอีก
ศาลมีอำ นาจที่จะออกคำ สั่งให้จำ เลยงดเว้นกระทำ การดังกล่าวซ้ำอีกในภายภาคหน้าตามที่โจทก์ขอ
ตามฎีกานี้ มีประเด็นที่ศาลฎีกาต้องวินิจฉัยว่า
๑.กำแพงคอนกรีตที่จำเลยทุบทำลายเป็นสาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดินของโจทก์หรือไม่
๒.โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่
โดยจำเลยฎีกาว่ากำแพงคอนกรีตเป็นส่วนควบของที่ดินจำเลย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
๓.คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่
โดยจำเลยฎีกาว่า คดีนี้เป็นเรื่องละเมิด โจทก์จึงต้องฟ้องคดีภายใน ๑ ปี
นับแต่วันรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.พ.พ.มาตรา
๔๒๐ วรรคหนึ่ง
๔.คำ ขอท้ายฟ้องของโจทก์ที่ขอให้สั่งห้ามจำ เลยกระทำ การอย่างใดต่อกำ แพงคอนกรีตหลังอาคารพาณิชย์ของจำ เลย และคำ ขอบังคับให้จำ เลยดำ เนินการซ่อมหรือสร้างกำ แพงคอนกรีตให้กลับคืนสภาพเดิมหากจำเลยไม่ดำ เนินการ ให้โจทก์ว่าจ้างบุคคลภายนอกทำ การซ่อมหรือสร้างกำ แพงคอนกรีตแทนจำ เลย โดยให้จำ เลยรับผิดชดใช้ค่าจ้างที่โจทก์ชำ ระแก่ผู้รับจ้าง
พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นั้นสามารถบังคับได้หรือไม่ โดยจำ เลยฎีกาในข้อนี้ว่า การที่จำ เลยทุบทำ ลายกำ แพงคอนกรีตเป็นการทำ ละเมิดตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๒๐ ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวให้สิทธิแก่โจทก์เพียงเรียกให้จำ เลยชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนจากการละเมิดได้เท่านั้น
แต่ไม่อาจขอบังคับให้จำ เลยกระทำ การอย่างอื่นได้
พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน
พ.ศ.๒๕๔๓
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“สาธารณูปโภค” หมายความว่า สิ่งอำ นวยประโยชน์ที่ผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อให้ผู้ซื้อที่ดินจัดสรรใช้ประโยชน์ร่วมกันตามสัญญาหรือแผนผังโครงการที่ได้รับอนุญาต
มาตรา ๔๓ สาธารณูปโภคที่ผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรที่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต
เช่น ถนน สวน สนามเด็กเล่น ให้ตกอยู่ในภาระจำ ยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรร และให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดินที่จะบำ รุงรักษาสาธารณูปโภคดังกล่าวให้คงสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำ ขึ้นนั้นต่อไป และจะกระทำ การใดอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำ ยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกมิได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๙๐
ท่านมิให้เจ้าของภารยทรัพย์ประกอบกรรมใด ๆ อันจะเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำ ยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก
0 Comments
แสดงความคิดเห็น