จำเลยที่ ๑
ให้การว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเทศบาล ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๒
เป็นผู้ดำเนินการเก็บขนขยะมูลฝอยแทนจำเลยที่ ๑ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยที่ ๑ ให้การรับว่า ร. ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุเพื่อเก็บขนขยะในนามของเทศบาลจำเลยที่ ๑ ตามคำสั่งของจำเลยที่
๑ เมื่อการเก็บขนขยะเป็นภารกิจของเทศบาลการขับรถเก็บขนขยะของ ร. จึงเป็นการทำไปตามหน้าที่ในภารกิจของจำเลยที่ ๑ ตามพฤติการณ์ย่อมเป็นการแสดงออกแก่บุคคลทั่วไปว่า
ร. เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๑
และรถบรรทุกคันเกิดเหตุเป็นของจำเลยที่
๑ การที่จำเลยที่ ๑ ว่าจ้างจำเลยที่
๒ ดำเนินการเก็บขนขยะในนามของจำเลยที่ ๑ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ ๑ เป็นนายจ้างของ ร. ด้วย ส่วนจำเลยที่ ๑ จะมีสัญญา หรือข้อตกลงกับจำเลยที่ ๒ อย่างไรก็เป็นเรื่องที่จะบังคับกันระหว่างจำเลยที่
๑ กับจำเลยที่ ๒ หาได้มีผลผูกพันกับบุคคลภายนอกซึ่งรวมถึงโจทก์ทั้งสามซึ่งต้องเสียหายจากการกระทำละเมิดของ ร. ด้วยไม่เมื่อ ร.
ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุไปในทางการที่จ้างของจำเลยทั้งสองและกระทำละเมิด จำเลยทั้งสองต้องร่วมกับ
ร. รับผิดในผลแห่งละเมิดที่ ร. กระทำด้วย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๕
ตามฎีกานี้
รถบรรทุกคันเกิดเหตุมีข้อความว่า “เทศบาลนคร” แต่โจทก์ไม่ได้กล่าวไว้ในคำฟ้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๒๕ นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด
ซึ่งลูกจ้างได้กระทำ ไปในทางการที่จ้างนั้น
0 Comments
แสดงความคิดเห็น