คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๙๒๔/๒๕๖๑
               จำเลยใช้ชื่อ ส. รีสอร์ทกรุ๊ปโฆษณาขายห้องพักและมีบริการเรือเร็วรับส่งผู้โดยสารไปรีสอร์ทของจำเลย ย่อมทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการให้บริการห้องพักและเรือเร็วรับส่งผู้โดยสารด้วยการให้ ม. นำเรือมารับโจทก์และลูกค้าในวันเกิดเหตุตามที่ติดต่อสั่งจองไว้ และเป็นการประกอบกิจการของจำเลยในการให้บริการเรือเร็วรับส่งโจทก์ไปยังที่พักของจำเลย การที่จำเลยให้ ม. ขับเรือมารับโจทก์ ย่อมทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้าใจโดยสุจริตว่า ม. กระทำการในนามของจำเลย หรืออีกนัยหนึ่งจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการเอง เป็นการที่จำเลยเชิด ภ. นายจ้างของ ม. และ ม. ออกแสดงเป็นตัวแทน จำเลยต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของ ม.
               แม้ฟ้องโจทก์จะมิได้กล่าวเกี่ยวกับการเป็นตัวการตัวแทน โจทก์ก็นำสืบได้เพราะเป็นการนำสืบข้อเท็จจริงในรายละเอียด เนื่องจากจำเลยเป็นนิติบุคคล ในการประกอบกิจการหรือปฏิบัติตามสัญญา ย่อมต้องมีตัวแทนไปกระทำแทน ศาลชอบที่จะหยิบยกวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
               ม. ขับเรือในวันเกิดเหตุด้วยความเร็วสูงเป็นเหตุให้เรือปะทะกับ คลื่นและกระแทกกับพื้นน้ำอยู่ตลอดเวลา เมื่อเรือถึงเกาะเสม็ดได้มีการจัดส่งโจทก์กลับเข้าฝั่งเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยทันที ผลการตรวจรักษาปรากฏว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังแตกและ ลำไส้ใหญ่แตก โดยไม่ปรากฏว่ามีเหตุแทรกซ้อนอย่างอื่นทำให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ การที่โจทก์ได้รับบาดเจ็บเป็นผลโดยตรงที่เกิดจากการนั่งเรือเร็วที่ ม. ขับด้วยความเร็วสูงและกระแทกกับพื้นน้ำอยู่ตลอดเวลานั้นเอง ม. มีประสบการณ์การขับเรือเร็วมาประมาณ ๑๐ ปี ย่อมทราบดีว่าหากขับเรือโดยใช้ความเร็วสูง ย่อมมีโอกาสที่เรือจะปะทะกับคลื่นและกระแทกกับพื้นน้ำได้ตลอดเวลา และอาจทำให้ผู้โดยสารได้รับอันตรายได้ ถือเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อ เมื่อโจทก์ได้รับบาดเจ็บจากผลของการกระทำของ ม. ซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลย จำเลยจะต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดด้วย

เพิ่มเติม
               การที่บุคคลหนึ่งเชิดบุคคลอีกคนหนึ่งออกแสดงเป็นตัวแทนของตนหรือรู้แล้วยอมให้บุคคลอีกคนหนึ่งเชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็นตัวแทนของตนอันตนจะต้องรับผิด ต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่าเป็นตัวแทนของตนตามความใน ป.พ.พ. มาตรา ๘๒๑ นั้น นอกจากจะมีการแสดงออกว่าเป็นตัวแทนของบุคคลใดแล้ว บุคคลภายนอกที่รับติดต่อกิจการด้วยจะต้องรับติดต่อโดยหลงเข้าใจว่าเป็นกิจการของบุคคลนั้นที่มีการแสดงออกว่าเป็นตัวการด้วย ผู้ที่มีการแสดงออกว่าเป็นตัวการ ถ้าหากบุคคลภายนอกที่รับติดต่อกิจการด้วย มิได้รับติดต่อโดยหลงเข้าใจว่าเป็นกิจการของบุคคลอื่น แต่ยอมติดต่อโดยเชื่อถือผู้ที่มาติดต่อด้วยอย่างผู้มาติดต่อเป็นเจ้าของกิจการนั้นเองแล้ว ก็ต้องถือว่าไม่ใช่กรณีที่บุคคลคนหนึ่งเชิดบุคคลอีกคนหนึ่งเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้บุคคลอีกคนหนึ่งเชิดตัวเขาเองเป็นผู้แทนตนอันตนจะต้องพลอยรับผิดชอบเสมือนเป็นตัวการไปด้วย และต้องถือเป็นกรณีที่บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นติดต่อกับบุคคลภายนอกเป็นส่วนตัวเอง ไม่มีการพาดพิงไปถึงบุคคลใดให้ต้องรับผิดชอบด้วย(ฎีกาที่ ๑๑๑๘๘/๒๕๕๘)

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
               มาตรา ๘๒๑ บุคคลผู้ใดเชิดบุคคลอีกคนหนึ่งออกแสดงเป็นตัวแทนของตนก็ดี รู้แล้วยอมให้บุคคลอีกคนหนึ่งเชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็นตัวแทนของตนก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่าบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน