คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๑๕-๑๓๑๗/๒๕๖๑
ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์กับเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่จำเลยทั้งสามนำมาวางศาลในการยื่นอุทธรณ์นั้นเป็นเงินคนละส่วนกัน
เพราะเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นเงินที่วางเพื่อเป็นประกันว่าหากในที่สุดศาลอุทธรณ์ภาค
๕ พิพากษาให้จำเลยทั้งสามผู้อุทธรณ์ต้องรับผิดชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความที่ชนะคดีแล้ว
ผู้ชนะคดีจะมีสิทธิได้รับค่าฤชาธรรมเนียมที่ได้ออกใช้ก่อนจากเงินที่จำเลยทั้งสามผู้
อุทธรณ์วางไว้ได้โดยผู้ชนะคดีไม่จำต้องดำเนินการบังคับคดี
จำ เลยทั้งสามทิ้งฟ้องอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๗๔ (๒) ประกอบมาตรา ๒๔๖ และผลของการทิ้งฟ้องอุทธรณ์นั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๖ บัญญัติให้การทิ้งคำ ฟ้องหรือถอนคำ ฟ้องย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นคำ ฟ้องนั้น รวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่น ๆ
อันมีมาต่อภายหลังยื่นคำ ฟ้อง
และกระทำ ให้คู่ความกลับคืนเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฟ้องเลย
เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค ๕ มีคำ สั่งจำ หน่ายคดีของจำ เลยทั้งสามออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค ๕ คำ พิพากษาศาลชั้นต้นย่อมถึงที่สุด จำ เลยทั้งสามจึงเป็นลูกหนี้ตามคำ พิพากษาศาลชั้นต้นและยังมีความรับผิดที่จะต้องร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นแทนโจทก์
โจทก์ย่อมมีสิทธิรับเงินค่าธรรมเนียมที่จำ เลยทั้งสามผู้อุทธรณ์วางไว้ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา
๑๕๑ วรรคสาม มิได้บัญญัติบังคับให้ศาลต้องมีคำ สั่งเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่ผู้อุทธรณ์นำ มาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตาม มาตรา ๒๒๙ คำ สั่งของศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ที่ให้จำ หน่ายคดีของจำ เลยทั้งสามออกจากสารบบความเพราะจำ เลยทั้งสามทิ้งฟ้องอุทธรณ์โดยมิได้มีคำ สั่งให้คืนเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวแก่จำ เลยทั้งสามชอบแล้ว
ตามฎีกานี้
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ มีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ
เพราะเหตุจำเลยทั้งสามไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาวางภายในกำหนด
ฎีกาที่
๑๐๑๑๕/๒๕๕๘ ป.วิ.พ.
มาตรา ๒๒๙ วางหลักในการอุทธรณ์คำ พิพากษาหรือคำสั่งว่า
ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำ พิพากษาหรือคำสั่งมาวางพร้อมกับอุทธรณ์ด้วย
โดยไม่ได้คำ นึงว่าคำ พิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นได้วินิจฉัยเกี่ยวกับเนื้อหาในคำฟ้องและคำให้การหรือไม่
การวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนอีกฝ่ายตามคำ สั่งศาลชั้นต้นถือว่าเป็นหน้าที่ของจำ เลยทั้งสองต้องวางให้ครบ
หากไม่ครบศาลชั้นต้นไม่ต้องแจ้งให้จำ เลยทั้งสองแก้ไขก่อนจะตรวจรับอุทธรณ์
เพราะไม่ใช่กรณีไม่ชำ ระหรือชำ ระค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์ไม่ถูกต้อง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘ ประกอบมาตรา ๒๓๒
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๕๑
วรรคสาม ในกรณีที่มีการทิ้งฟ้องหรือศาลสั่งจำ หน่ายคดีในกรณีอื่น ให้ศาลมีอำ นาจที่จะสั่งคืนค่าขึ้นศาลบางส่วนได้ตามที่เห็นสมควร
มาตรา ๒๒๙
การอุทธรณ์นั้นให้ทำ เป็นหนังสือยื่นต่อศาลชั้นต้นซึ่งมีคำ พิพากษาหรือคำ สั่งภายในกำ หนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำ พิพากษาหรือคำ สั่งนั้น และผู้อุทธรณ์ต้องนำ เงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำ พิพากษาหรือคำ สั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้นด้วย
ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นสำ เนาอุทธรณ์ต่อศาล
เพื่อส่งให้แก่จำ เลยอุทธรณ์
(คือฝ่ายโจทก์หรือจำ เลยความเดิมซึ่งเป็นฝ่ายที่มิได้อุทธรณ์ความนั้น)
ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๕ และ ๒๓๖
0 Comments
แสดงความคิดเห็น