กระบวนพิจารณาชั้นสืบพยานจำเลยชอบหรือไม่ 

คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๔๘๑/๒๕๖๑ 
               คำเบิกความพยานจำเลยในสำนวนคดีนี้ระบุวันเวลาที่จำเลยเบิกความวันเดียวกันกับวันที่จำเลยมาเบิกความในชั้นไต่สวนคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ เนื้อหาคำเบิกความในส่วนที่ตอบทนายจำเลยซักถามเป็นอย่างเดียวกัน ตามคำเบิกความของจำเลยจึงเป็นลักษณะของการเสนอบันทึกถ้อยคำของผู้ที่จำเลยประสงค์จะอ้างเป็นพยานแทนการซักถามผู้ให้ถ้อยคำเป็นพยานต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๐๒/๑
               การเสนอบันทึกถ้อยคำแทนการซักถามพยานจะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๒๐/๑ กล่าวคือ จำเลยจะต้องยื่นคำร้องเสนอบันทึกถ้อยคำทั้งหมดหรือแต่บางส่วนของผู้ที่ตนประสงค์จะอ้างเป็นพยานแทนการซักถามผู้ให้ถ้อยคำต่อศาลชั้นต้นก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยานในกรณีไม่มีการชี้สองสถาน ซึ่งหากโจทก์ไม่คัดค้านและศาลเห็นสมควรอนุญาตก็จะต้องมีการยื่นบันทึกถ้อยคำต่อศาลและส่งสำเนาให้โจทก์ทราบ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันสืบพยานนั้น แต่ในสำนวนกลับไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ดำเนินการตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าว ทั้งตามคำเบิกความของจำเลยที่ยังคงกล่าวถึงสาเหตุที่จำเลยไม่สามารถยื่นคำให้การได้ภายในกำหนดก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการนำสืบตามประเด็นใน คำให้การภายหลังที่ศาลอนุญาตให้จำเลยซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การยื่นคำให้การแล้ว ย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๑๘
               การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติว่าด้วยการเสนอบันทึกถ้อยคำของผู้ที่ประสงค์จะอ้างเป็นพยานแทนการซักถามผู้ให้ถ้อยคำเป็นพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๐๒/๑ เป็นกรณีมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในการพิจารณาคดีและการพิจารณาพยานหลักฐาน ทั้งคำสั่งศาลชั้นต้นในรายงานกระบวนพิจารณาที่จำเลยจะนำ ช. มานำสืบในประเด็นไม่มีการรับเงินตามสัญญากู้ว่าเป็นพยานที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีก็เป็นการไม่ชอบ ถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ และเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้าง ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗, ๑๔๒ (๕) ประกอบมาตรา ๒๔๓ (๒), ๒๔๖, ๒๔๗ (เดิม)

               ตามฎีกานี้ ศาลฎีกา พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ยกอุทธรณ์ของจำเลยและยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่ชั้นสืบพยานจำเลยแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
               มาตรา ๑๑๘ ในการที่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานจะซักถามพยานก็ดี หรือถามถึงพยานก็ดี ห้ามมิให้คู่ความฝ่ายนั้นใช้คำถามนำ เว้นแต่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งยินยอมหรือได้รับอนุญาตจากศาล
               ในการที่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานจะถามติงพยาน ห้ามมิให้คู่ความฝ่ายนั้นใช้คำถามอื่นใดนอกจากคำถามที่เกี่ยวกับคำพยานเบิกความตอบคำถามค้าน
               ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ห้ามไม่ให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถามพยานด้วย
               (๑) คำถามอันไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี
               (๒) คำถามที่อาจทำให้พยาน หรือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลภายนอกต้องรับโทษทางอาญา หรือคำถามที่เป็นหมิ่นประมาทพยาน เว้นแต่คำถามเช่นว่านั้นเป็นข้อสาระสำคัญในอันที่จะชี้ขาดข้อพิพาท
               ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถามพยานฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตรานี้ เมื่อศาลเห็นสมควร หรือเมื่อคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งร้องคัดค้าน ศาลมีอำนาจที่จะชี้ขาดว่าควรให้ใช้คำถามนั้นหรือไม่ ในกรณีเช่นนี้ ถ้าคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องคัดค้านคำชี้ขาดของศาล ก่อนที่ศาลจะดำเนินคดีต่อไป ให้ศาลจดไว้ในรายงานซึ่งคำถามและข้อคัดค้าน ส่วนเหตุที่คู่ความคัดค้านยกขึ้นอ้างนั้นให้ศาลใช้ดุลพินิจจดลงไว้ในรายงาน หรือกำหนดให้คู่ความฝ่ายนั้นยื่นคำแถลงเป็นหนังสือเพื่อรวมไว้ในสำนวน
               มาตรา ๑๒๐/๑ เมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำร้องและคู่ความอีกฝ่ายไม่คัดค้าน และศาลเห็นสมควรศาลอาจอนุญาตให้คู่ความฝ่ายที่มีคำร้องเสนอบันทึกถ้อยคำทั้งหมดหรือแต่บางส่วนของผู้ที่ตนประสงค์จะอ้างเป็นพยานยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของผู้ให้ถ้อยคำต่อศาลแทนการซักถามผู้ให้ถ้อยคำเป็นพยานต่อหน้าศาลได้
               คู่ความที่ประสงค์จะเสนอบันทึกถ้อยคำแทนการซักถามพยานดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง จะต้องยื่นคำร้องแสดงความจำนงพร้อมเหตุผลต่อศาลก่อนวันชี้สองสถาน หรือก่อนวันสืบพยาน ในกรณีที่ไม่มีการสองสถาน และให้ศาลพิจารณากำหนดระยะเวลาที่คู่ความจะต้องยื่นบันทึกถ้อยคำดังกล่าวต่อศาลและส่งสำเนาบันทึกถ้อยคำนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันสืบพยานคนนั้น เมื่อมีการยื่นบันทึกถ้อยคำต่อศาลแล้วคู่ความที่ยื่นไม่อาจขอถอนบันทึกถ้อยคำนั้น บันทึกถ้อยคำนั้นเมื่อพยานเบิกความรับรองแล้วให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำเบิกความตอบคำซักถาม
               ให้ผู้ให้ถ้อยคำมาศาลเพื่อเบิกความตอบคำซักถามเพิ่มเติม ตอบคำถามค้าน และคำถามติงของคู่ความหากผู้ให้ถ้อยคำไม่มาศาล ให้ศาลปฏิเสธที่จะรับฟังบันทึกถ้อยคำของผู้นั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแต่ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นกรณีจำเป็นหรือมีเหตุสุดวิสัยที่ผู้ให้ถ้อยคำไม่สามารถมาศาลได้ และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จะรับฟังบันทึกถ้อยคำที่ผู้ให้ถ้อยคำมิได้มาศาลนั้นประกอบพยานหลักฐานอื่นก็ได้
               ในกรณีที่คู่ความตกลงกันให้ผู้ให้ถ้อยคำไม่ต้องมาศาล หรือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งยินยอมหรือไม่ติดใจถามค้าน ให้ศาลรับฟังบันทึกถ้อยคำดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในคดีได้