ประเด็น กรณีผู้เช่าซื้อนำรถออกให้เช่า เมื่อรถที่เช่าซื้อสูญหาย ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนหนี้ค้างชำระตามสัญญาหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๕๑๗/๒๕๖๑ เล่มที่ ๘ หน้า ๑๖
                    สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ประเภทหนึ่งจึงต้องนำบทบัญญัติลักษณะเช่าทรัพย์มาใช้บังคับด้วย เมื่อรถที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับไปนับแต่วันที่รถยนต์สูญหายตาม ป.พ.พ. มาตรา ๕๖๗ จำเลยจึงไม่ต้องส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ และไม่ต้องรับผิดค่าขาดประโยชน์ที่โจทก์อาจนำรถที่เช่าซื้อออกให้บุคคลอื่นเช่า ส่วนราคารถยนต์ใช้แทนนั้น ตามสัญญาเช่าซื้อข้อ ๕ วรรคสอง กำหนดว่า ในกรณีที่รถสูญหายโดย หากไม่เป็นความผิดของผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย หรือ เบี้ยปรับหรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทวงถาม การติดตาม ค่าทนายความ หรือค่าอื่นใดเพียงเท่าที่เจ้าของได้จ่ายไปจริงตามความจำเป็นและมีเหตุผลอันสมควร แต่หากเป็นความผิดของผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนหนี้ค้างชำระตามสัญญานี้ ดังนั้น แม้รถที่เช่าซื้อสูญหายอันเป็นเหตุให้สัญญาเช่าซื้อระงับไป จำเลยในฐานะผู้เช่าซื้อก็ยังคงมีความรับผิดอันจะต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามข้อสัญญาดังกล่าว การที่จำเลยให้จำเลยร่วมที่ ๒ เช่ารถที่เช่าซื้อไปโดยโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อไม่ยินยอม แล้วจำเลยร่วมที่ ๒ นำรถยนต์หลบหนีไป ถือได้ว่าการสูญหายของรถที่เช่าซื้อ เป็นผลจากความผิดของจำเลยที่ไม่ดูแลรักษารถที่เช่าซื้อตามสมควร จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ราคารถยนต์แก่โจทก์เป็นจำนวนเท่ากับหนี้ค้างชำระ ตามสัญญาเช่าซื้อข้อ ๕ วรรคสอง แต่สัญญาข้อนี้เป็นการกำหนดความรับผิด ในการที่ไม่ชำระหนี้ไว้ล่วงหน้า มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับซึ่งศาลอาจพิจารณากำหนดราคารถยนต์เท่ากับค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลืออยู่ หรือหากสูงเกินส่วน ศาลชอบที่จะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๘๓ วรรคหนึ่ง

               ตามฎีกานี้ จำเลยและจำเลยร่วมที่ ๒ ต้องรับผิด ดังนี้
                                             ๑. จำเลยร่วมที่ ๒ ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์... ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน ๕๕๐,๐๐๐ บาท
                                             ๒. จำเลยร่วมกับจำเลยที่ ๒ ชำระเงิน ๕๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี แต่จำเลยไม่ต้องร่วมกับจำเลยร่วมที่ ๒ ส่งมอบรถที่เช่าซื้อคืนโจทก์...
                                             ๓. จำเลยร่วมที่ ๒ ชำระค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์เป็นเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ส่วนจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยร่วมที่ ๒
                                             ๔. จำเลยร่วมที่ ๒ รับผิดค่าเสียหายอีกเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท นับแต่วันถัดวันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบรถยนต์คืนหรือใช้ราคาแทนจนเสร็จ แต่ไม่เกิน ๑๒ เดือน ส่วนจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยร่วมที่ ๒
                                             ๕. จำเลยร่วมที่ ๒ รับผิดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท  ส่วนจำเลยไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยร่วมที่ ๒

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
               มาตรา ๕๖๗ ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อมระงับไปด้วย