คำพิพากษาฎีกาที่ ๘๗๕/๒๕๖๑
แม้ที่ดินพิพาทได้มาระหว่างโจทก์และจำเลยอยู่กินฉันสามีภริยาแต่โจทก์จำเลยต่างทำมาหาได้แยกกัน จำเลยนำเงินรายได้จากการขายก๋วยเตี๋ยวของจำเลยไปซื้อที่ดินพิพาทโดยโจทก์ไม่ได้ลงทุนร่วมแรงทำมาหาได้หรือมีส่วนร่วมหรือช่วยเหลือ
ที่ดินพิพาทจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย โจทก์หามีกรรมสิทธิ์รวมด้วยไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา
๑๕๒๖ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ในคดีหย่า
ถ้าเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่ฝ่ายเดียวและการหย่านั้นจะทำ ให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลง
เพราะไม่มีรายได้พอจากทรัพย์สินหรือจากการงานตามที่เคยทำ อยู่ระหว่างสมรส อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะขอให้ฝ่ายที่ต้องรับผิดจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้ได้
ดังนั้น การที่โจทก์จะเรียกให้จำ เลยจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้แก่ตนได้นั้นโจทก์จะต้องนำ สืบให้ได้ครบหลักเกณฑ์ ๓ ประการว่า
เหตุแห่งการหย่าในคดีนี้เป็นความผิดของจำ เลยแต่เพียงฝ่ายเดียว
การหย่านั้นทำ ให้โจทก์ยากจนลงเพราะไม่มีรายได้จากทรัพย์สินหรือจากการงานที่เคยทำ อยู่
และโจทก์จะต้องฟ้องเรียกค่าเลี้ยงชีพมาในคดีฟ้องหย่า โจทก์จำ เลยตกลงทำ สัญญาประนีประนอมยอมความกันระหว่างพิจารณาของศาลโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย
คดีไม่มีประเด็นฟ้องหย่าต่อศาล และไม่มีกรณีที่จะถือได้ว่าเหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของฝ่ายใด
ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๖
เมื่อมิได้ตกลงกันไว้ในเรื่องค่าเลี้ยงชีพ ผู้ย่อมไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะมาเรียกค่าเลี้ยงชีพกันได้
เพิ่มเติม
ฎีกาที่
๑๔๗๓๖/๒๕๕๕ การที่ทรัพย์สินใดจะเป็นสินส่วนตัวหรือสินสมรสย่อมเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งมวลประกอบกัน
ลำพังการลงลายมือชื่อรับรองต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าเงินทั้งหมดที่ซื้อเป็นสินส่วนตัวของจำ เลยซึ่งเป็นคนไทยแต่เพียงฝ่ายเดียว
เป็นเพียงหลักฐานเบื้องต้นเท่านั้น แต่เมื่อ
พยานหลักฐานทั้งหมดรับฟังได้ว่าโจทก์ไม่ได้ซื้อที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำ เลยแต่เพียงผู้เดียว ที่ดินและบ้านพิพาทจึงเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์และจำ เลยร่วมกัน
ฎีกาที่
๙๕๗๐/๒๕๕๑ ป.พ.พ.มาตรา
๑๔๗๔ วรรคสอง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเงินที่จำเลยได้มาในระหว่างสมรสเป็นสินสมรส
จำเลยจะต้องพิสูจน์หักล้าง เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องถือว่าเป็นสินสมรส
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๕๖
ถ้าทรัพย์สินเป็นของบุคคลหลายคนรวมกัน ท่านให้ใช้บทบัญญัติในหมวดนี้บังคับ
เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา ๑๔๗๔
สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(๑)
ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(๒)
ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(๓)
ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส
0 Comments
แสดงความคิดเห็น