คำพิพากษาฎีกาที่
๒๕๙๔/๒๕๖๒
คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยและศาลพิพากษาลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ คดีย่อมเสร็จเด็ดขาดไปเฉพาะกระทงความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
แม้โจทก์นำการกระทำเดียวกันนั้น มาแยกฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเป็นคดีนี้ในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นซึ่งมิใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวกันและยังหาได้มีการวินิจฉัยในเนื้อหาความผิดไม่
จะถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดฐานพยายามฆ่าไปแล้วหาได้ไม่
โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ไม่ระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๓๙ (๔)
ตามฎีกานี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น กับ
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน
หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม้ได้รับใบอนุญาต เป็น
๑. เป็นความผิดคนละประเภทกัน
๒. เป็นความผิดสำเร็จต่างกัน
๓. เจตนาแตกต่างแยกจากกันได้
๔.
เป็นความผิดต่อกฎหมายคนละฉบับกัน
๕. องค์ประกอบความผิดแตกต่างกัน
๕. ก่อให้เกิดผลที่แตกต่างกัน
โจทก์ย่อมมีอำนาจแยกฟ้องเป็นคนละคดีได้
ฎีกาที่ ๒๓๐๙/๒๕๕๘ สิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปเมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตาม
ป.วิ.อ. มาตรา ๓๙(๔) มุ่งหมายถึงการกระทำที่ก่อให้เกิดความผิดอันหนึ่งอันเดียวกันในคราวเดียวกัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๓๙ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป
ดังต่อไปนี้
(๔) เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง
0 Comments
แสดงความคิดเห็น