คำพิพากษาฎีกาที่
๓๔๔๕/๒๕๖๒
การซื้อขายที่ดินพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีข้อตกลงว่าจะไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
เป็นสัญญาซื้อขายเสร็จ เด็ดขาด เมื่อไม่ได้จดทะเบียนย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๔๕๖ วรรคหนึ่ง และเมื่อเป็นที่ดินมือเปล่าที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดมีเพียงสิทธิครอบครอง
การซื้อขายย่อมอาจสมบูรณ์ได้โดยการส่งมอบการครอบครอง แต่เมื่อไม่มีการส่งมอบสัญญาซื้อขายไม่สมบูรณ์
คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมโดยคืนทรัพย์แก่กันฐานลาภมิควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา
๑๗๒ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๔๑๒ จำเลยที่ ๑ ต้องคืนเงินค่าที่ดินที่รับไว้ทั้งหมดแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๒
เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ ๑ รู้เห็นยินยอมเป็นพยานในการทำสัญญาซื้อขายและการรับเงินค่าที่ดินพิพาท
ถือได้ว่าได้ให้สัตยาบันในการทำสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแล้ว เงินที่จำเลยที่ ๑
รับไว้ที่ต้องคืนเป็นหนี้ร่วมของจำเลยทั้งสองตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา
๑๔๙๐(๔) จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๘๗๑/๒๕๕๑ นิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างผู้คัดค้านที่
1 กับลูกหนี้เป็นโมฆะ
การคืนทรัพย์สินอันเกิดจากโมฆะกรรม ต้องนำบทบัญญัติลาภมิควรได้มาใช้บังคับตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๗๒ วรรคสอง ผู้คัดค้านที่ ๑ มีหน้าที่ต้องคืนเงินค่าที่ดินพิพาทที่ได้รับจากลูกหนี้ซึ่งเป็นลาภมิควรได้จนเต็มจำนวน
เว้นแต่ผู้คัดค้านที่ ๑ จะได้รับไว้โดยสุจริต จึงมีหน้าที่ต้องคืนเพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืนตามมาตรา
๔๑๒ และเป็นหนี้เงินต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดร้อยละ
๗.๕ ต่อปี นับแต่เวลาผิดนัดเป็นต้นไป
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๗๒
โมฆะกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้
และผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะยกความเสียเปล่าแห่งโมฆะกรรมขึ้นกล่าวอ้างก็ได้
ถ้าจะต้องคืนทรัพย์สินอันเกิดจากโมฆะกรรม
ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้แห่งประมวลกฎหมายนี้มาใช้บังคับ
มาตรา ๔๑๒
ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้นั้นเป็นเงินจำนวนหนึ่ง
ท่านว่าต้องคืนเต็มจำนวนนั้น เว้นแต่เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต
จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน
มาตรา ๔๕๖
การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ
วิธีนี้ให้ใช้ถึงซื้อขายเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป
ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย
สัญญาจะขายหรือจะซื้อ หรือคำมั่นในการซื้อขายทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง
ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ
หรือได้วางประจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้
ให้ใช้บังคับถึงสัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์ซึ่งตกลงกันเป็นราคาสองหมื่นบาท
หรือกว่านั้นขึ้นไปด้วย
มาตรา ๑๔๙๐
หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามีหรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรส
ดังต่อไปนี้
(๔)
หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน
0 Comments
แสดงความคิดเห็น