คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๖๘๖/๒๕๖๒ 
               ปัญหาว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ที่ให้กักขังจำเลย โดยมิได้กำหนดสถานที่กักขัง ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕ พระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงพ.ศ.๒๔๙๙ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. ๒๕๒๐ มาตรา ๓
               ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ วรรคสอง ที่กำหนดให้ ศาลสั่งในคำพิพากษาหากประสงค์จะให้กักขังผู้กระทำความผิดไว้ในที่อาศัยของผู้นั้นเองหรือของผู้อื่นที่ยินยอมรับผู้นั้นไว้หรือสถานที่อื่นที่อาจกักขังได้เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทหรือสภาพของผู้กักขัง เป็นกรณีที่ ศาลเห็นเป็นการสมควร แต่หากศาลเห็นเป็นการไม่สมควรที่จะนำบทบัญญัตินี้มาบังคับใช้แก่ผู้กระทำผิด ก็หาจำเป็นต้องกำหนดสถานที่กักขังไว้ในคำพิพากษาไม่
               ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลยมิได้แก้บทมาตรา เป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุก ไม่เกิน ๕ ปี ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ วรรคแรก ที่จำเลยฎีกาขอให้กำหนดสถานที่กักขังเป็นที่อยู่อาศัยของจำเลยหรือสถานที่อื่นอันมิใช่ เรือนจำ สถานีตำรวจหรือสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน เป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ภาค ๕ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว

เพิ่มเติม
               ฎีกาที่ ๔๖๑๗/๒๕๔๙ แม้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔ วรรคสอง จะให้ดุลพินิจแก่ศาลที่จะสั่งในคำพิพากษาให้กักขังผู้กระทำผิดไว้ในที่อาศัยของผู้นั้นเอง หรือของผู้อื่นที่ยินยอมรับผู้นั้นไว้หรือสถานที่อื่นที่อาจกักขังได้ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภท หรือสภาพของผู้ถูกกักขังก็ตาม แต่ก็จะต้องเป็นกรณีที่ศาลเห็นเป็นการสมควรว่าสถานที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมกับประเภทหรือสภาพของผู้ถูกกักขังด้วย ที่จำเลยอ้างในฎีกาว่า การกักขังไม่เป็นผลดีต่อครอบครัวจำเลย จำเลยมีภริยาและบุตรที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู ต้องขับรถไปส่งภริยาเพื่อไปค้าขายที่ตลาดทุกวันเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว จึงขอให้จำเลยถูกกักขังอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นที่อาศัยของจำเลย โดยให้ภริยาเป็นผู้ควบคุมความประพฤติของจำเลยนั้น ข้ออ้างดังกล่าวยังไม่พอฟังว่าการกักขังจำเลยไว้ที่บ้านของจำเลยจะมีความเหมาะสมกับประเภทหรือสภาพของจำเลย อย่างไร กรณียังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะสั่งให้กักขังจำเลยไว้ที่บ้านของจำเลย

ประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา ๒๔ ผู้ใดต้องโทษกักขัง ให้กักตัวไว้ในสถานที่กักขังซึ่งกำหนดไว้อันมิใช่เรือนจำ สถานีตำรวจ หรือสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน
               ถ้าศาลเห็นเป็นการสมควร จะสั่งในคำพิพากษาให้กักขังผู้กระทำความผิดไว้ในที่อาศัยของผู้นั้นเอง หรือของผู้อื่นที่ยินยอมรับผู้นั้นไว้ หรือสถานที่อื่นที่อาจกักขังได้ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทหรือสภาพของผู้ถูกกักขังก็ได้
               ถ้าความปรากฏแก่ศาลว่า การกักขังผู้ต้องโทษกักขังไว้ในสถานที่กักขังตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้นั้น หรือทำให้ผู้ซึ่งต้องพึ่งพาผู้ต้องโทษกักขังในการดำรงชีพได้รับความเดือด ร้อนเกินสมควร หรือมีพฤติการณ์พิเศษประการอื่นที่แสดงให้เห็นว่าไม่สมควรกักขังผู้ต้องโทษกักขังในสถานที่ดังกล่าว ศาลจะมีคำสั่งให้กักขังผู้ต้องโทษกักขังในสถานที่อื่นซึ่งมิใช่ที่อยู่อาศัยของผู้นั้นเองโดยได้รับความ ยินยอมจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ก็ได้ กรณีเช่นว่านี้ ให้ศาลมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้ต้องโทษกักขังปฏิบัติ และหากเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าวยินยอม ศาลอาจมีคำสั่งแต่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้ควบคุมดูแลและให้ถือว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายนี้