คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๔๕๒/๒๕๖๒
“กำหนดนัด” ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๖ วรรคหนึ่ง หมายถึง กำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องตามมาตรา
๑๖๖ ประการหนึ่ง กำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานตามมาตรา ๑๖๖ ประกอบมาตรา ๑๗๓/๒
วรรคหนึ่งประการหนึ่ง และกำหนดนัดพิจารณา ตามมาตรา ๑๖๖ ประกอบมาตรา ๑๘๑
อีกประการหนึ่ง
หลังจากประทับฟ้องแล้ว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้หมายเรียกจำเลยมาให้การในวันนัดพร้อม โดยมิได้กำหนดว่า
นอกจากการสอบคำให้การจำเลยแล้วจะดำเนินกระบวนพิจารณาอื่นใดอีก จึงเป็นเพียงการนัดพร้อมเพื่อสอบถามคำให้การของจำเลย
การที่โจทก็ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมซึ่งมิใช่วันนัดตรวจพยานหลักฐานหรือวันนัดพิจารณาหรือนัดสืบพยานโจทก์
จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่มาศาลตามมาตรา ๑๖๖
วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๗๓/๒ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๑๖๖ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๘๑
โจทก์ไม่อยู่ในบังคับที่จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา ๑๖๖ วรรคสอง
เพิ่มเติม
ฎีกาที่
๗๔๙๓/๒๕๖๐ ป.วิ.อ.มาตรา ๑๖๖ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ถ้าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัด ให้ศาลยกฟ้องเสีย
ซึ่งคำว่า “กำหนดนัด” ตามบทบัญญัติดังกล่าว หมายถึงกำหนดนัดไต่สวนหรือกำหนดนัดพิจารณา
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลยและกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ ซึ่งมิใช่วันนัดพิจารณาหรือนัดสืบพยานโจทก์
แต่เป็นวันที่โจทก์มาศาลเพื่อกำหนดวันสืบพยานโจทก์ และฟังกำหนดวันนัดพิจารณาคดี กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม
ป.วิ.อ.มาตรา ๑๖๖ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๘๑ ที่ศาลจะยกฟ้องได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา
๑๖๖ ถ้าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัด ให้ศาลยกฟ้องเสีย
แต่ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุสมควรจึงมาไม่ได้ จะสั่งเลื่อนคดีไปก็ได้
คดีที่ศาลได้ยกฟ้องดังกล่าวแล้ว
ถ้าโจทก์มาร้องภายในสิบห้าวัน นับแต่วันศาลยกฟ้องนั้น
โดยแสดงให้ศาลเห็นได้ว่ามีเหตุสมควรจึงมาไม่ได้ ก็ให้ศาลยกคดีนั้นขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่
ในคดีที่ศาลยกฟ้องดังกล่าวแล้ว
จะฟ้องจำเลยในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้
แต่ถ้าศาลยกฟ้องเช่นนี้ในคดีซึ่งราษฎรเท่านั้นเป็นโจทก์ ไม่ตัดอำนาจพนักงานอัยการฟ้องคดีนั้นอีก
เว้นแต่จะเป็นคดีความผิดต่อ
0 Comments
แสดงความคิดเห็น