คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๒๐๒/๒๕๖๒ 

               จำเลยทั้งสองทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับโจทก์ทั้งที่รู้แล้วว่าที่ดินอาจมีจำนวนน้อยกว่าที่ระบุในโฉนดซึ่งเป็นข้อสาระสำคัญสำหรับผู้ที่จะเข้าทำนิติกรรมใดๆ เกี่ยวกับที่ดิน แต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉยมิได้แจ้งเรื่องจำนวนเนื้อที่ของที่ดินลดลงให้โจทก์ทราบก่อนเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขาย มิใช่เป็นการใช้สิทธิแห่งตนโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕ จำเลยทั้งสองย่อมไม่อาจถือเอาประโยชน์จากสัญญาขายที่ดินในลักษณะเหมาเพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบต่อโจทก์สำหรับจำนวนที่ดินที่ขาดหายไปซึ่งตนทราบอยู่ก่อนแล้วหาได้ไม่ กรณีต้องปรับบทกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๖๖ เมื่อจำนวนที่ดินขาดเกินกว่าร้อยละ ๕ โจทก์มีสิทธิเลือกรับไว้และใช้ราคาตามส่วนได้ตามมาตรา ๔๖๖ วรรคหนึ่ง ส่วนที่ดินอีกโฉนดหนึ่งขาดจำนวนไม่เกินร้อยละ ๕ โจทก์มีหน้าที่รับไว้แล้วใช้ราคา ตามส่วนตามมาตรา ๔๖๖ วรรคสอง และเงินค่าที่ดินที่จำเลยทั้งสองรับไว้เกินกว่าสิทธิที่พึงได้รับเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยทั้งสองคืนแก่โจทก์

               ตามฎีกานี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในช่วงระหว่างปี ๒๕๓๑ ถึง ๒๕๓๒ จำเลยทั้งสองเคยมอบอำนาจให้ตัวแทนไปยื่นขอรังวัดเพื่อรวมโฉนดที่ดิน ๗ แปลง ซึ่งรวมถึงที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ ๒๓๕๗ และ ๒๗ ๙๓ มาครั้งหนึ่งแล้ว ผลปรากฏว่าได้เนื้อที่ของที่ดินน้อยกว่าเนื้อที่ตามโฉนด ๔๓ ไร่ ๓ งาน ๔๕ ตารางวา ตามสำเนาคำขอรังวัดรวมโฉนดเอกสารหมาย จ.๗ แสดงให้ เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีโอกาสทราบเรื่องจำนวนเนื้อที่ของที่ดินขาดหายไปมาก่อนเข้าทำสัญญากับโจทก์

เพิ่มเติม
               ฎีกาที่ ๑๒๖๙๖/๒๕๕๘ โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงซื้อขายที่ดินกันโดยระบุเนื้อที่ทั้งหมดไว้ ๑๒ ไร่ ๑ งาน ๓๐ ตารางวา ตามสำเนาโฉนดที่ดินซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา แต่ที่ดินมีเนื้อที่จริงเพียง ๑๐ ไร่ ๘๐.๗ ตารางวา เป็นกรณีที่จำเลยทั้งสามผู้ขายส่งมอบที่ดินน้อยไปกว่าที่ระบุในสัญญาซึ่งไม่เกินกว่าร้อยละ ๕ แห่งเนื้อที่ทั้งหมดอันได้ระบุไว้ โจทก์จะบอกปัดเสียหรือจะรับเอาไว้และใช้ราคาตามส่วนก็ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๖๖ เมื่อโจทก์เลือกรับที่ดินไว้ จำเลยทั้งสามจึงต้องคืนเงินค่าที่ดินส่วนที่รับไว้เกินให้แก่โจทก์โดยคิดเฉลี่ยจากเนื้อที่ที่ดินที่ซื้อขายกัน ซึ่งตกตารางวาละ ๗๕,๐๐๐ บาท เนื้อที่ดินขาดไป ๒ ไร่ ๔๙.๓ ตารางวา เท่ากับ ๘๔๙.๓ ตารางวา คิดเป็นเงิน ๖๓,๖๙๗,๕๐๐ บาท ซึ่งโจทก์ทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระแล้ว แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉย จึงต้องรับผิดต่อโจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
               มาตรา ๕ ในการใช้สิทธิแห่งตนก็ดี ในการชำระหนี้ก็ดี บุคคลทุกต้องกระทำโดยสุจริต
               มาตรา ๔๖๖ ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น หากว่าได้ระบุจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดไว้ และผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินน้อยหรือมากไปกว่าที่ได้สัญญาไซร้ ท่านว่าผู้ซื้อจะปัดเสีย หรือจะรับเอาไว้และใช้ราคาตามส่วนก็ได้ ตามแต่จะเลือก
               อนึ่ง ถ้าขาดตกบกพร่องหรือจำนวนไม่เกินกว่าร้อยละห้าแห่งเนื้อที่ทั้งหมดอันได้ระบุไว้นั้นไซร้ ท่านว่าผู้ซื้อจำต้องรับเอาและใช้ราคาตามส่วน แต่ว่าผู้ซื้ออาจจะเลิกสัญญาเสียได้ในเมื่อขาดตกบกพร่อง หรือจำนวนถึงขนาดซึ่งหากผู้ซื้อได้ทราบก่อนแล้วคงจะมิได้เข้าทำสัญญานั้น