ละเมิด
ค่าสินไหมทดแทน กรณีทำให้ตาย
มาตรา ๔๔๓ ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้น
ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่าปลงศพรวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่น ๆ อีกด้วย
ถ้ามิได้ตายในทันที
ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานนั้นด้วย
ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายไปด้วยไซร้
ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
มาตรา ๔๔๕ ในกรณีทำให้เขาถึงตาย
หรือให้เสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยก็ดี ในกรณีทำให้เขาเสียเสรีภาพก็ดี
ถ้าผู้ต้องเสียหายมีความผูกพันตามกฎหมายจะต้องทำการงานให้เป็นคุณแก่บุคคลภายนอกในครัวเรือน
หรืออุตสาหกรรมของบุคคลภายนอกนั้นไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อที่เขาต้องขาดแรงงานอันนั้นไปด้วย
มาตรา ๑๕๔๗ เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน
จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร
ค่าสินไหมทดแทน
๑.ค่าปลงศพ(มาตรา ๔๔๓ วรรคแรก)
๒.ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่น(มาตรา ๔๔๓ วรรคแรก)
๓.ค่ารักษาพยาบาลก่อนตาย(มาตรา ๔๔๓ วรรคสอง)
๔.ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ก่อนตาย(มาตรา ๔๔๓ วรรคสอง)
๕.ค่าขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย(มาตรา ๔๔๓ วรรคสาม)
๖.ค่าขาดแรงงาน(มาตรา ๔๔๕)
ค่าสินไหมทดแทนกรณีตาย
เรียกได้เฉพาะตามมาตรา ๔๔๓ และ ๔๔๕ ได้เท่านั้น(ฎีกาที่ ๗๑๖๖/๒๕๔๒)
ค่าปลงศพ
ค่าปลงศพ ได้แก่ โลงศพ สวดศพ
ทำบุญตามประเพณี
ผู้มีสิทธิเรียกค่าปลงศพได้คือผู้ที่มีอำนาจจัดการศพ
ได้แก่
(๑) ผู้จัดการมรดก
(๒) ทายาท ภายใต้บังคับมาตรา ๑๖๔๙
(๓)
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว(ฎีกาที่ ๑๔/๒๕๑๗, ๑๒๐๒/๒๕๔๙)
(๔) ไม่มีบิดามารดา
ไม่มีผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดา เป็นผู้จัดการศพ เรียกค่าปลงศพได้(ฎีกาที่
๔๘๒๘/๒๕๒๙)
การเรียกค่าปลงศพต้องเรียกตามฐานะและตามสมควร(ฎีกาที่
๕๓๓/๒๕๐๖, ๑๖๔๘/๒๕๐๙)
กรณีไม่มีสิทธิเรียกค่าปลงศพ
บิดานอกกฎหมายไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายและค่าปลงศพ(ฎีกาที่
๑๒๘๕/๒๕๐๘)
ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นในการจัดการศพ
ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่เรียกได้
เช่น ค่าดอกไม้(ฎีกาที่ ๕๙๘๕/๒๕๓๙), ค่าอาหารเลี้ยงแขก(ฎีกาที่ ๕๓๓/๒๕๐๖) ค่าพิมพ์หนังสือแจกงานศพ
ค่าของที่ระลึก เจดีย์บรรจุอัฐิ(ฎีกาที่ ๒๗๐๗/๒๕๑๖),
ค่าใช้จ่ายที่เรียกไม่ได้
เช่น ทำบุญ ๑๐๐ วัน(ฎีกาที่ ๒๕๔๙-๒๕๕๐/๒๕๓๐)
ค่ารักษาพยาบาลก่อนตาย
เรียกได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ตายจะมีสิทธิเบิกจากหน่วยงานของรัฐหรือไม่
ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ก่อนตาย
กรณียังไม่ตาย แต่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานได้เท่านั้น
เช่น นอนรักษาพยาบาลจึงไม่สามารถทำงานได้
ค่าขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย
ผู้มีสิทธิเรียก ได้แก่ สามีภริยามีหน้าที่อุปการระเลี้ยงดูกัน,
บิดามารดามีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรจนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะ,
บุตรต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดมารดา
กรณีบุตรต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาจนกว่าบิดามารดาจะถึงแก่ความตาย
ค่าขาดไร้อุปการะเป็นสิทธิของบิดาและมารดาแต่ละคนแยกเรียกร้องได้(ฎีกาที่
๒๐๙๒๐/๒๕๕๖)
บุตรบุญธรรมและผู้รับบุตรบุญธรรม
(ฎีกาที่ ๗๑๓/๒๕๑๗), บิดมารดาเดิมของบุตรบุญธรรมก็ยังมีสิทธิเรียกได้(ฎีกาที่
๖๘๙/๒๕๑๒)
กรณีไม่มีสิทธิเรียก
บุตรบรรลุนิติภาวะแล้ว แม้บิดามารดายังให้การศึกษาและให้การเลี้ยงดู
ก็ไม่มีสิทธิเรียกได้(ฎีกาที่ ๖๗๗/๒๕๐๑)
บุตรนอกกฎหมาย ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดไร้อุปการะ(ฎีกาที่
๑๖๐๑/๒๔๙๒) เว้นแต่จะได้ดำเนินการตามมาตรา ๑๕๔๗
อื่นๆ
ค่าขาดไร้อุปการะและค่าปลงศพ คิดดอกเบี้ยนับแต่วันทำละเมิด(ฎีกาที่
๕๐๔๗/๒๕๓๙)
การฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู อาจเรียกเป็นรายเดือนหรือเอาเป็นก้อนก็ได้
ค่าขาดแรงงานของบุคคลภายนอก
บุคคลในครัวเรือน การขาดแรงงานในครัวเรือนเป็นการไร้อุปการะอย่างหนึ่ง
สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ได้(ฎีกาที่ ๑๘๑๒/๒๕๓๕)
แต่ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้ตายในขณะที่มีชีวิตอยู่ได้ช่วยดำเนินกิจการ
ไม่สามารถเรียกค่าขาดแรงงานได้(ฎีกาที่ ๑๗๙๕๐/๒๕๕๗)
บุคคลนอกครัวเรือน เช่น
ลูกจ้างในโรงงาน
0 Comments
แสดงความคิดเห็น