การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย กรณีบิดาตาย
§ วิธีการฟ้อง ต้องคำเป็นคำร้องขอ
ดูฎีกาที่ ๖๐๒๐/๒๕๔๙, ๒๖๙๘/๒๕๓๖
ฎีกาที่
๖๐๒๐/๒๕๔๙ ผู้ตายอยู่กินฉันสามีภริยากับผู้ร้องจนมีบุตรด้วยกันคือ เด็กชาย จ.
และผู้ตายให้ความอุปการะเลี้ยงดูเด็กชาย จ.
กับได้แสดงต่อมารดาญาติพี่น้องและบุตรผู้ตายรวมทั้งคนอื่นว่า เด็กชาย จ.
เป็นบุตรของตนอีกคนหนึ่ง ถือว่าเป็นกรณีมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเด็กชาย
จ. เป็นบุตรผู้ตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๕๕ (๗) แล้ว
ผู้ร้องมีสิทธิฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว
แต่เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายไปเสียก่อน ผู้ร้องจึงย่อมมีสิทธิร้องเป็นคดีนี้ได้
ฎีกาที่ ๒๖๙๘/๒๕๓๖ ผู้ตายได้ทำบันทึกมีข้อความระบุว่า
ผู้ร้องยินยอมรับเงินจำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท เป็นค่าทดแทนกรณีที่ผู้ร้องมีบุตรกับผู้ตาย
โดยผู้ร้องลงลายมือชื่อในฐานะผู้ให้สัญญา ส่วนผู้ตายลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับสัญญา
บันทึกดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเอกสารของผู้ตายที่ยอมรับว่าเด็กหญิง ม.
เป็นบุตรของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๕๕(๓)
ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิง ม. จึงมีสิทธิยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งว่าเด็กหญิง
ม. เป็นบุตรของผู้ตายได้
หมายเหตุ เด็กชาย จ.
ธ. โดยนาง ธ. ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้ร้อง
Ø ถ้าเด็กอายุยังไม่ครบสิบห้าปีบริบูรณ์ ผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กเป็นผู้ฟ้องแทน(
มาตรา ๑๕๕๕๖ วรรคหนึ่ง )
Ø ถ้าเด็กอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์ เด็กต้องฟ้องเอง( มาตรา ๑๕๕๖ วรรคสอง )
§ เหตุในการฟ้อง
๑. เมื่อมีเอกสารของบิดาแสดงว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของตน(
มาตรา ๑๕๕๕(๓) )
๒.
เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่าเด็กเป็นบุตรโดยมีหลักฐานว่าบิดาเป็นผู้แจ้งการเกิดหรือรู้เห็นยินยอมในการแจ้งนั้น(
มาตรา ๑๕๕๕(๔) )
๓.
เมื่อมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเป็นบุตร( มาตรา ๑๕๕๕(๗) )
Ø เมื่อมีเอกสารของบิดาแสดงว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของตน
เช่น
บันทึกการยอมรับว่าเด็กเป็นบุตรต่อผู้บังคับบัญชา(ฎีกาที่ ๒๖๙๘/๒๕๓๖)
Ø เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่าเด็กเป็นบุตรโดยมีหลักฐานว่าบิดาเป็นผู้แจ้งการเกิดหรือรู้เห็นยินยอมในการแจ้งนั้น
เช่น ปรากฏหลักฐานทางสูติบัตรและทะเบียนสำมะโนครัวว่าผู้เยาว์เป็นบุตร(ฎีกาที่
๓๗๒/๒๕๑๐)
Ø เมื่อมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเป็นบุตร
เช่น
บิดาให้การศึกษา ให้ความอุปการะเลี้ยงดู หรือยอมให้เด็กนั้นใช้ชื่อสกุลของตน(ฎีกาที่
๑๔๓/๒๕๒๔)
0 Comments
แสดงความคิดเห็น