คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๒๘๕/๒๕๕๗
ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๘ คำ ว่า “เหตุสุดวิสัย” หมายความว่า เหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นก็ดี
จะให้ผลพิบัติก็ดี เป็นเหตุที่ไม่อาจป้องกันได้ แม้ทั้งบุคคลผู้ต้องประสบหรือใกล้จะต้องประสบเหตุนั้นจะได้จัดการระมัดระวังตามสมควรอันพึงคาดหมายได้จากบุคคลในฐานะและภาวะเช่นนั้น
จากบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวเห็นได้ว่า เหตุที่จะถือได้ว่า
เป็นเหตุสุดวิสัยนั้นต้องเป็นเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่ใช่ความผิดของบุคคลผู้นั้น
และต้องเป็นเหตุที่ไม่สามารถป้องกันได้แม้บุคคลผู้ประสบเหตุนั้นจะได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว
เพิ่มเติม
Ø ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดได้มอบหมายให้ตัวแทนนำเงินไปไปชำระแก่กรมบังคับคดี
ปรากฏว่าตัวแทนนั้นยักยอกเงินไป ดังนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ดูฎีกาที่ ๑๐๒๘๕/๒๕๕๗
ฎีกาที่ ๑๐๒๘๕/๒๕๕๗ การที่ ธ.
ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ซื้อทรัพย์ให้นำ เงิน
๕๕๐,๐๐๐ บาท ไปชาระต่อกรมบังคับคดีแล้วกลับยักยอกเงินไปเป็นของตนเองโดยทุจริต
ผู้ซื้อทรัพย์คงไม่อาจทราบได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ถือได้ว่าเหตุดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย เมื่อเหตุแห่งการไม่ชำ ระหนี้ตามกำ หนดเวลาไม่ใช่ความผิดของผู้ซื้อทรัพย์ และเป็นเหตุที่ผู้ซื้อ
ทรัพย์ไม่อาจคาดหมายได้
ผู้ซื้อทรัพย์จึงอ้างเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเพื่อขอขยายระยะเวลาการวางเงินส่วนที่เหลือได้
§ ผู้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ จะอ้างปัญหาด้านการเงินในการลงทุนทางธุรกิจ
หรือวิกฤตเศรษฐกิจ ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หาได้ไม่ ดูฎีกาที่ ๘๔๒-๘๔๓๔/๒๕๕๓, ๕๕๖๔/๒๕๕๑
ฎีกาที่ ๘๔๒-๘๔๓๔/๒๕๕๓ การที่จำ เลยจัดสรรที่ดินและได้ประกาศขายที่ดินแปลงย่อยพร้อมบ้านพักอาศัยแก่ประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้บริโภคทั้งสิบห้าโดยที่มิได้ตระเตรียมเงินลงทุนไว้ให้พร้อมเสียก่อนเมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับเงินลงทุน
ซึ่งสถาบันการเงินระงับการให้กู้ในระหว่างนั้นเป็นเหตุให้การดำ เนินการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยหยุดชะงักลง
จึงเป็นความผิดของจำ เลยที่ไม่เตรียมการป้องกันไว้ก่อนทั้งๆ
ที่สามารถกระทำ ได้
ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยอันจะเป็นเหตุให้จำ เลยหลุดพ้นจากความรับผิด
ฎีกาที่ ๕๕๖๔/๒๕๕๑ จำเลยเป็นผู้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาจัดสรรขายให้แก่ประชาชนโดยคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง
ซึ่งก็ต้องใช้เงินลงทุนสูงด้วย จึงต้องมีการ วางแผนอย่างรัดกุมในเรื่องการเงิน
การตลาด รวมทั้งการคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง แม้จะเกิดภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจและนโยบายการแก้ปัญหาของรัฐบาลจะมีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจทั่วไป
รวมทั้งของจำเลยด้วยก็ตาม แต่ก็มิใช่ภาวะที่จำเลยไม่อาจคาดการณ์ได้ หรือไม่อาจแก้ไขได้ ดังนั้น การที่จำเลยปลูกสร้างบ้านไม่เสร็จจึงไม่อาจฟังได้ว่าเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย จำเลยจึงเป็นผู้ผิดสัญญา ผู้บริโภคชอบที่จะบอกเลิกสัญญาได้
v ในธุรกิจการค้า จะอ้างเหตุว่าประสบปัญหาขาดทุนทางธุรกิจ
เป็นเหตุสุดวิสัย หาได้ไม่ ดูฎีกาที่ ๑๖๗๘/๒๕๔๖
ฎีกาที่ ๑๖๗๘/๒๕๔๖ จำเลยซื้อผ้าไปจากโจทก์
การที่จำเลยไม่สามารถชำระหนี้แก่โจทก์ได้เพราะผู้ซื้อผ้าจากจำเลยอีกทอดหนึ่งมีปัญหาทางการเงินไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่จำเลย เป็นเรื่องการประกอบธุรกิจการค้า ซึ่งการประสบปัญหากำไรหรือขาดทุนเป็นปกติทางการค้าย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
ไม่อาจถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยอันจะทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๑๙ วรรคหนึ่ง
ü จำเลยมีหน้าที่จัดส่งสินค้านำเข้า จะอ้างว่า
ผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศไม่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกสินค้า เป็นเหตุสุดวิสัย
หาได้ไม่ ดู ฎีกาที่ ๗๕๗๑/๒๕๕๒
ฎีกาที่ ๗๕๗๑/๒๕๕๒ โจทก์ทำ สัญญาซื้อเครื่องส่งวิทยุแฝงในแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่จากจำ เลย จำ เลยย่อมมีหน้าที่จัดหาสินค้าดังกล่าวตามสัญญาส่งมอบให้แก่โจทก์
การที่บริษัท ด.
ผู้ผลิตสินค้าไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาให้ส่งออกสินค้า
จึงเป็นความผิดของจำ เลย
หาใช่เหตุสุดวิสัยไม่ ทั้งมิใช่การชำ ระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้
และซึ่งจำ เลยไม่ต้องรับผิดชอบ
และทำ ให้จำ เลยเป็นอันหลุดพ้นจากการชำ ระหนี้นั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา ๒๑๙ วรรคหนึ่ง
o
ผู้ควบคุมยานพาหนะ
ต้องตรวจสอบสภาพรถให้ใช้การได้ดี
เมื่อเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากลูกปืนล้อรถด้านขวาแตก
ทำให้รถเสียการทรงตัวและชนถูกรถผู้อื่น ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หาได้ไม่ ดูฎีกาที่
๖๒๓๕/๒๕๕๑
ฎีกาที่ ๖๒๓๕/๒๕๕๑ การที่จำ เลยที่ ๑ อ้างว่าลูกปืนล้อรถพ่วงด้านขวาแตกเป็นเหตุให้ล้อรถพ่วงหลุด
รถยนต์บรรทุกจึงเสียการทรงตัวและชนถูกรถยนต์คันที่เอาประกันภัยกับโจทก์ไว้นั้น
กรณียังไม่อาจถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยเพราะผู้ใช้งานรถต้องตรวจตราอุปกรณ์ต่างๆ
ที่ประกอบขึ้นเป็นตัวรถซึ่งย่อมมีทั้งอุปกรณ์ที่อยู่ภายนอกและภายใน
อุปกรณ์บางชิ้นตรวจสอบได้ด้วยสายตา บางชิ้นเสื่อมสลายไปตามสภาพการใช้งาน ซึ่งล้วนแต่ต้องตรวจตราจากผู้ใช้งานทั้งสิ้นไม่ว่าจะตรวจสอบเองในฐานะที่จำ เลยที่ ๑ เป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ
หรือโดยผู้อื่นที่มีหน้าที่ก็ตาม จำ เลยที่
๑ จะอ้างว่าลูกปืนล้อรถ เป็นอุปกรณ์ที่อยู่ภายใน ไม่ใช่หน้าที่ตรวจสอบของจำ เลยที่ ๑ ซึ่งเป็นเพียงผู้ขับเท่านั้นไม่ได้
0 Comments
แสดงความคิดเห็น