คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๗๖๒/๒๕๖๒ 

                ว. ต้องการฆ่าผู้ตายซึ่งเป็นสามีจึงติดต่อจำเลยที่ ๑ ให้หามือปืนฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ ๑ ติดต่อจำเลยที่ ๒ แล้วจำเลยที่ ๒ ติดต่อจ้าง น.  น. ชักชวน ส. ให้ร่วมกระทำความผิดด้วย หลังจากนั้น จำเลยที่ ๑ รับอาวุธปืนจาก ว. ไปส่งมอบให้แก่จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๒ ส่งมอบให้แก่ น. แล้ว น. และ ส. ร่วมกันใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้ตายจนถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่แสดงว่าจำเลยทั้งสองมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดของ น. ส. และ ว. แต่ขณะที่ น. และ ส. ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย คงมีแต่ ว. อยู่ใกล้ชิดกับสถานที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว จำเลยทั้งสองไม่ได้อยู่ในที่ใกล้ชิดกับสถานที่เกิดเหตุเพียงพอที่จะช่วยเหลือ น. และ ส. หรืออำนวยความสะดวกหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ตาย ขณะที่ น. และ ส. ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายได้ทันท่วงที และผลแห่งการตายของผู้ตายไม่ได้เกิดจากการกระทำของจำเลยทั้งสองในขณะที่ น. และ ส. กระทำความผิด ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำการร่วมกันกับ น. และ ส. ในลักษณะที่เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ อันจะถือว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวการด้วย แต่การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการก่อให้ น. และ ส. กระทำความผิดด้วยการจ้าง น. และ ส. กระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยทั้งสองจึงเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๔ วรรคแรก


ตามฎีกานี้ ตามตำราของ ดร.เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ ถือว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ใช้โดยตรง ส่วน ว. และจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ใช้โดยอ้อม

 

ประมวลกฎหมายอาญา

               มาตรา ๘๔ ผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวานหรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ผู้นั้นเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด ถ้าความผิดมิได้กระทำลงไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ ยังไม่ได้กระทำ หรือเหตุอื่นใด ผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

               ถ้าผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดนั้น ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ และถ้าผู้ถูกใช้เป็นบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ ลูกจ้างหรือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้ใช้ ผู้ที่มีฐานะยากจน หรือผู้ต้อง พึ่งพาผู้ใช้เพราะเหตุป่วยเจ็บหรือไม่ว่าทางใด ให้เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้ใช้กึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับผู้นั้น