คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๗๘๑/๒๕๖๒ 

                  ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงได้ขอศาลตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะบังคับชำระหนี้โดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดและอายัดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา นอกจากนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๖ (๓) เดิม บัญญัติว่า ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น เงินหรือสิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ต่อไปนี้ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ฯ (๓) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ ค่าชดใช้ เงินสงเคราะห์ หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงานนอกจากที่กล่าวไว้ใน (๒) ที่นายจ้างจ่ายให้แก่บุคคลเหล่านั้น หรือคู่สมรสหรือญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ของบุคคลเหล่านั้นเป็นจำนวนรวมกันเดือนละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควร ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวมีเจตนารมณ์คุ้มครองลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่เป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงานสามารถดำรงชีพต่อไปได้ โดยยังมีรายได้เลี้ยงชีพตนและครอบครัวต่อไปได้บ้างจึงคุ้มครองมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาบังคับคดีจนหมดและไม่สามารถดำรงชีพต่อไปได้

               เงินเดือนส่วนที่เหลือที่นายจ้างโอนเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยภายหลังที่เจ้าพนักงานบังคับคดีหักชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นที่นายจ้างโอนเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยในธนาคารโจทก์ โจทก์จะใช้สิทธิหักกลบลบหนี้ตามคำพิพากษาที่จำเลยมีอยู่แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๔๑ ไม่ได้ แต่โจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิในการบังคับคดีทางเจ้าพนักงานบังคับคดีตามโจทก์ขอตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๘๖ (๓) เดิม

 

               ตามฎีกานี้ โจทก์อ้างว่า มีสิทธิที่หักเงินเพื่อหักกลบลบหนี้ตามข้อตกลงที่จำเลยทำไว้กับโจทก์                        

                - มาตรา ๒๘๖ เดิม ปัจจุบันคือมาตรา ๓๐๒               

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

               มาตรา ๓๐๒ ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น เงินหรือสิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี 

                    (๓) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ ค่าชดใช้ เงินสงเคราะห์ หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน นอกจากที่กล่าวไว้ใน (๒) ที่นายจ้างหรือบุคคลอื่นใดได้จ่ายให้แก่บุคคลเหล่านั้น หรือคู่สมรส หรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหล่านั้น เป็นจำนวนรวมกันไม่เกินเดือนละสองหมื่นบาทหรือตามจำนวนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นสมควร