คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๔๓๕/๒๕๖๒ (ประชุมใหญ่)
แม้จำเลยยิงผู้ตายทั้งสองพร้อม ๆ
กัน และต่อเนื่องกัน แต่เมื่อเป็นการยิงคนละคราวกันสามารถแยกเจตนาในขณะที่จำเลยลงมือกระทำความผิดได้
และการยิงผู้ตายทั้งสองแต่ละคนเป็นความผิดสำเร็จในตัว จึงเป็นความผิดหลายกรรม
มิใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายบทเดียวกันต่างหากจากกัน
ตามฎีกานี้ ซึ่งจำเลยสงสัยว่านาง จ. ซึ่งเป็นภริยาจำเลย ตีตัวออกห่างและแอบคบหากับ
นาย พ. ในวันเกิดเหตุจำเลยเห็นผู้ตายทั้งสองอยู่ด้วยกัน
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๘๔๒๙/๒๕๖๐ การที่จำเลยร่วมกับพวกใช้มีดแทงผู้เสียหายที่
๑ และผู้เสียหายที่ ๒ เป็นการแทงคนละคราวกัน โดยจำเลยร่วมกับพวกแทงผู้เสียหายที่ ๑
ก่อนต่อเมื่อผู้เสียหายที่ ๒ ลงจากรถเพื่อจะเข้าช่วยเหลือ
จำเลยจึงร่วมกับพวกใช้มีดแทงผู้เสียหายที่ ๒ แม้จะเป็นการแทงในเวลาต่อเนื่องกัน
แต่ก็มิได้มีเจตนาต่อเนื่องโดยมีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน เป็นเจตนาแยกต่างหากจากกัน
การกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน
ฎีกาที่ ๕๙๒๙/๒๕๓๔ ขณะที่จำเลยยิงผู้ตายทั้งสอง
ผู้ตายทั้งสองอยู่ด้วยกันในห้องนอน จำเลยยิงนาย ล.ก่อนแล้วจึงยิงนาง น. จำเลยยอมรับว่าจำเลยยิงนาย
ล. ๒ นัด แล้วจึงยิงนาง น. ๑ นัด แสดงว่าในการ
ยิงปืนแต่ละนัดความประสงค์และจุดมุ่งหมายของจำเลยได้แยกออกจากกันว่ากระสุนนัดใดจำเลยยิงผู้ตายคนใด
เจตนาฆ่าผู้ตายทั้งสองในขณะจำเลยลงมือกระทำความผิดจึงแยกออกจากกันได้
ความต้องการให้ผู้ตายทั้งสองถึงแก่ความตายแม้จะเกิดขึ้นในใจของจำเลยพร้อม ๆ กัน
และต่อเนื่องกับการลงมือกระทำความผิดก็มิใช่เจตนาในขณะที่จำเลยลงมือกระทำความผิด
การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรม
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๙๑
เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดดังต่อไปนี้
(๑) สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี
(๒) ยี่สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี
(๓) ห้าสิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
0 Comments
แสดงความคิดเห็น