คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๗๖๓/๒๕๖๒
สัญญากู้ยืมเงินที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้
แม้จำเลยที่ ๑ ผู้กู้ผิดนัดและโจทก์บอกเลิกสัญญาภายหลังจากวันที่ ส. ผู้ค้ำประกันถึงแก่ความตายแล้วก็ตาม
แต่เมื่อหนี้กู้ยืมยังคงมีอยู่อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ก่อนวันที่ ส. จะถึงแก่ความตาย
และสัญญาค้ำประกันก็หาได้ระงับไปเพราะความตายของ ส. ไม่ สิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง
ๆ ตามสัญญาค้ำประกันที่ ส. ทำกับโจทก์เป็นกองมรดกของผู้ตายและตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๕๙๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๖๐๐ โจทก์ชอบที่จะฟ้องจำเลยที่ ๓ ในฐานะผู้จัดการมรดกของ
ส. เพื่อบังคับตามสิทธิเรียกร้องของตนที่มีและได้รับทรัพย์สินในกองมรดกของ ส.
ตามมาตรา ๑๗๓๔ และมาตรา ๑๗๓๗
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๑๒๖๘/๒๕๕๕ พ. ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้เงินกู้ของจำเลยที่
๑ ซึ่งเป็นหนี้อันสมบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๖๘๑ วรรคหนึ่ง แม้ขณะที่ พ. ถึงแก่ความตาย
จำเลยที่ ๑ ผู้กู้ยังไม่ผิดสัญญาหรือผิดนัดก็ตาม สัญญาค้ำประกันก็หาได้ระงับไปเพราะความตายของ
พ. ไม่ สิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ตามสัญญาค้ำประกันที่ พ. ทำกับโจทก์จึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๙๙ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๖๐๐
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๕๙๙
เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท
ทายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
มาตรา ๑๖๐๐
ภายใต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย
ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพ แล้ว
เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้
มาตรา ๑๗๓๔
เจ้าหนี้กองมรดกชอบแต่จะได้รับการชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดกเท่านั้น
มาตรา ๑๗๓๗ เจ้าหนี้กองมรดกจะบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทายาทคนใดก็ได้ แต่ถ้ามีผู้จัดการมรดก ให้เจ้าหนี้เรียกเข้ามาในคดีด้วย
0 Comments
แสดงความคิดเห็น