คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๖๐๗/๒๕๖๒
แม้จำเลยที่ ๑ ผู้เช่าซื้ออาจบอกเลิกสัญญาโดยส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อที่ให้สิทธิผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาเสียเมื่อใดก็ได้ โดยผู้เช่าซื้อจะต้องคืนและส่งมอบรถยนต์ในสภาพที่ซ่อมแซมเรียบร้อยและใช้การได้ดีในสภาพเช่นเดียวกับวันที่รับมอบรถยนต์ไปจากเจ้าของพร้อมทั้งอุปกรณ์และอะไหล่ทั้งหมดให้แก่ เจ้าของ ณ สำนักงานของเจ้าของ แต่ข้อสัญญายังระบุเงื่อนไขต่อไปอีกว่า “และชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญานี้อยู่ในเวลานั้นทันที..” แสดงว่ากรณีที่จะถือว่าเป็นการเลิกสัญญาตามข้อสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวก็ต่อเมื่อจำเลยที่ ๑ ต้องส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์พร้อมกับชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญาอยู่ในเวลาที่ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนด้วย แม้จำเลยที่ ๑ ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์แล้ว แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ ได้ชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญาแก่โจทก์ทันที อันเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาเพื่อใช้สิทธิเลิกสัญญา จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาตามสัญญาเช่าซื้อที่จะทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายเป็นค่าขาดราคาตามข้อตกลงในสัญญาได้ ทั้งพฤติการณ์ที่จำเลยที่ ๑ ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์โดยไม่ปรากฏข้อโต้แย้งของโจทก์ ถือว่าโจทก์และจำเลยที่ ๑ ต่างสมัครใจเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาอันเป็นค่าเสียหายตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อ
ตามฎีกานี้ สัญญาเช่าซื้อข้อ
๑๒ ให้สิทธิผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาเสียเมื่อใดก็ได้ โดยผู้เช่าซื้อจะต้องคืนและส่งมอบรถยนต์ในสภาพที่ซ่อมแซมเรียบร้อยและใช้การได้ดี
ในสภาพเช่นเดียวกับวันที่รับมอบรถยนต์ไปจากเจ้าของพร้อมทั้งอุปกรณ์และอะไหล่ทั้งหมดให้แก่เจ้าของ
ณ สำนักงานของเจ้าของ แต่สัญญาข้อดังกล่าวยังระบุเงื่อนไขต่อไปอีกว่า “และชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญานี้อยู่ในเวลานั้นทันที..” ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์พร้อมกับชำระเงินทั้งปวงที่ถึงกำหนดชำระหรือเป็นหนี้ตามสัญญาอยู่ในเวลาที่ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนด้วย
กล่าวคือ ในขณะส่งมอบรถคืนจะต้องมีการชำระเงินด้วย
จำเลยผิดนัดตั้งแต่งวดที่ ๕
ประจำวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวทวงถามและบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยทั้งสอง
ในระหว่างที่โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวทวงถาม จำเลยที่ ๑ ส่งมอบรถคืนวันที่ ๖ กรกฎาคม
๒๕๕๗
หมายเหตุ
เปรียบเทียบ ฎีกาที่ ๑๙๓๘/๒๕๖๓
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๓๘๖
ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญาหรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
การเลิกสัญญาเช่นนั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง
แสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่
0 Comments
แสดงความคิดเห็น