คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๓๒/๒๕๖๒ 

               ศาลชั้นต้นอนุญาตตามคำแถลงของผู้ร้องที่ขอให้ปิดหมายส่งสำเนาคำร้องและหมายนัดไต่สวนให้แก่ผู้คัดค้านที่   แต่เจ้าหน้าที่ศาลผู้ส่งหมายกลับนำสำเนาคำร้องและหมายนัดไต่สวนไปใส่ในตู้รับ จดหมายแทนซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคาร มิใช่หน้าห้องพักของ ผู้คัดค้านที่ ๑ ซึ่งอยู่บริเวณชั้นที่ ๕ ของอาคาร ดังนี้ไม่ว่าจะเป็นภูมิลำเนาของผู้คัดค้านที่ ๑ หรือไม่ก็ตาม แต่การปิดหมายมีความหมายอยู่ในตัวว่าต้องปิดในที่เปิดเผยแลเห็นได้ชัดและง่ายเพื่อให้ผู้ถูกปิดหมายทราบว่ามีคำร้องขอและหมายนัดจากศาล จึงเป็นการขัดคำสั่งศาล ถือว่าการส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอให้แก่ผู้คัดค้านที่ ๑ ไม่ชอบ

               ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ ๒ ต่างยื่นคำคัดค้านและยกประเด็นเรื่อง การขอเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบว่าผู้คัดค้านที่ ๑ ยื่นล่วงพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว การที่ศาลชั้นต้นเมื่อไต่สวนแล้วมี คำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบโดยมิได้วินิจฉัยเรื่อง ผู้คัดค้านที่ ๑ ยื่นคำร้องเกินกำหนดตามที่กฎหมายบัญญัติหรือไม่ เท่ากับศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจของตนเองเมื่อไต่สวนแล้วเห็นว่ามีกระบวน พิจารณาที่ผิดระเบียบเกิดขึ้นทำให้การดำเนินคดีไม่เป็นไปด้วยความยุติธรรม อันเป็นการใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ แพ่ง มาตรา ๒๗ วรรคแรก ซึ่งไม่มีเงื่อนไขใดบังคับ แม้จะเริ่มต้นด้วย คำร้องของผู้คัดค้านที่ ๑ ก็ตาม ก็หาตัดสิทธิการใช้อำนาจของศาลในการเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นไม่

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

               มาตรา ๒๗ ในกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม หรือที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเรื่องการเขียน และการยื่นหรือการส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่น ๆ หรือในการพิจารณาคดี การพิจารณาพยานหลักฐาน หรือการบังคับคดี เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายที่เสียหายเนื่องจากการที่มิได้ปฏิบัติเช่นว่านั้นยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดหรือบางส่วน หรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ศาลเห็นสมควร

               ข้อค้านเรื่องผิดระเบียบนั้น คู่ความฝ่ายที่เสียหายอาจยกขึ้นกล่าวได้ไม่ว่าในเวลาใด ๆ ก่อนมีคำพิพากษา แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น แต่ทั้งนี้คู่ความฝ่ายนั้นต้องมิได้ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบแล้ว หรือต้องมิได้ให้สัตยาบันแก่การผิดระเบียบนั้น ๆ

               ถ้าศาลสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบใด ๆ อันมิใช่เรื่องที่คู่ความละเลยไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาเรื่องนั้นภายในระยะเวลาซึ่งกฎหมายหรือศาลกำหนดไว้ เพียงเท่านี้ไม่เป็นการตัดสิทธิคู่ความฝ่ายนั้น ในอันที่จะดำเนินกระบวนพิจารณานั้น ๆ ใหม่ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายบังคับ

                    มาตรา ๗๙  ถ้าการส่งคำคู่ความหรือเอกสารนั้นไม่สามารถจะทำได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตราก่อน ศาลอาจสั่งให้ส่งโดยวิธีอื่นแทนได้ กล่าวคือปิดคำคู่ความหรือ เอกสารไว้ในที่แลเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของคู่ความหรือบุคคลผู้มีชื่อระบุไว้ในคำคู่ความหรือเอกสาร หรือมอบหมายคำคู่ความหรือเอกสารไว้แก่เจ้าพนักงาน ฝ่ายปกครองในท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจ แล้วปิดประกาศแสดงการที่ได้มอบหมายดังกล่าวแล้วนั้นไว้ดังกล่าวมาข้างต้น หรือลงโฆษณาหรือทำวิธีอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร

               การส่งคำคู่ความหรือเอกสารโดยวิธีอื่นแทนนั้น ให้มีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลาสิบห้าวันหรือระยะเวลานานกว่านั้นตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ได้ล่วงพ้นไปแล้ว นับตั้งแต่เวลาที่คำคู่ความหรือเอกสารหรือประกาศแสดงการมอบหมายนั้นได้ปิดไว้ หรือการโฆษณาหรือวิธีอื่นใดตามที่ศาลสั่งนั้นได้ทำหรือได้ตั้งต้นแล้ว