คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๔๐/๒๕๖๓ 

               แม้การบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์กำหนดให้ต้องบังคับเอาแก่ทรัพย์จำนองก่อน หากไม่ครบจำนวนหนี้จึงจะบังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นได้ก็ตาม แต่เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาทรัพย์จำนองเป็นเงิน ๑๐,๔๕๑,๔๘๐ บาท และในวันที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ ๑ และ จำเลยที่ ๔ เพิ่มเติม จำเลยทั้งสี่เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา จำนวน ๑๖,๐๘๔,๕๕๔.๕๘ บาท หากขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จำนองไปตามราคาดังกล่าวก็ยังคงเหลือหนี้ตามคำพิพากษาอีกมากเพียงพอสมควรแก่การให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสี่เพิ่มเติม เพื่อบังคับชำระหนี้แก่โจทก์ และโจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินทรัพย์จำนองก่อนครบกำหนดระยะเวลาการบังคับคดี แต่ยังไม่สามารถขายที่ดินดังกล่าวได้ ถือได้ว่าโจทก์ขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์จำนองภายในกำหนดระยะเวลาการบังคับคดีแล้ว ประกอบกับที่ดินทรัพย์จำนองที่ดินโจทก์นำยึดมีราคาประเมินไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา หากต้องรอให้มีการขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จำนองเสร็จสิ้นก่อนถึงจะกลับมายึดทรัพย์สินอื่นได้ย่อมพ้นกำหนดระยะเวลาบังคับคดีเป็นเหตุให้โจทก์อาจเสียสิทธิในการบังคับคดี ทั้ง ๆ ที่การบังคับคดีล่าช้าส่วนหนึ่งเกิด จากการที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ขอดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นฎีกาอย่างคนอนาถา จำเลยที่ ๔ อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ ส. เข้าสวมสิทธิเป็นโจทก์แล้วทิ้งอุทธรณ์ กับคู่ความยื่นคำร้องขอแก้ไขคำพิพากษา มิใช่เกิดจากความผิดของโจทก์ การยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ไว้ก่อนแต่ยังไม่ต้องนำออกขายจนกว่าจะมีการขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จำนองเสร็จสิ้นและได้เงินไม่พอชำระหนี้จึงค่อยนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดก็ไม่ขัดต่อขั้นตอนการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โจทก์จึงมีสิทธินำยึดที่ดินของจำเลยที่ ๑ และที่ ๔ เพิ่มเติมได้

               โจทก์ยื่นคำร้องขอยึดทรัพย์ของจำเลยที่ ๑ และที่ ๔ เพิ่มเติม ภายในกำหนดระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๑ (เดิม) แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งและคำพิพากษายกคำร้อง และในชั้นฎีกาล่วงเลยกำหนดระยะเวลาบังคับคดีที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายแล้ว กรณีถือว่ามีเหตุสุดวิสัยที่โจทก์ไม่สามารถบังคับคดีภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นสมควรขยายระยะเวลาการบังคับคดีให้โจทก์ออกไปอีกนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟัง

 

               หมายเหตุ เปรียบเทียบ ฎีกาที่ ๓๓๙/๒๕๖๓

 

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

               ป.วิ.พ.มาตรา ๒๗๔