คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๓๘๒/๒๕๖๐

               พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒ ไม่มีการกำหนดว่าข้อมูลที่ใช้ในการจับกุมและปราบปรามการกระทำความผิดจะต้องเป็นรายใหญ่ เอเยนต์ หรือเครือข่ายรายใหญ่ และเมื่อปรากฏว่าจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน แล้วจำเลยยังให้ข้อมูลแก่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมจำเลยว่า จำเลยให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานตำรวจในการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากผู้จำหน่ายเครือข่าย ป. และ น. จนสามารถจำกุม ว. จ. อ. ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษจำนวนหนึ่งนับเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒ แล้ว

 

หมายเหตุ

               โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

               โจทก์ฎีกาว่าข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒ จะต้องเป็นข้อมูลที่ใช้ในการจับกุมและปราบปรามการกระทำความผิดรายใหญ่ เอเยนต์ หรือเครือข่ายรายใหญ่ แต่บุคคลที่จำเลยให้ข้อมูลจนเจ้าพนักงานตำรวจจับได้ไม่ใช่เอเยนต์รายใหญ่ ข้อมูลที่จำเลยให้จึงไม่เป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ

 

พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒

               มาตรา ๑๐๐/๒ ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระทำความผิดผู้ใดได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้