คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๒๘/๒๕๖๓
คดีร้องขอคืนของกลางมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามคำร้องของ ผู้ร้องเพียงว่า
ศาลจะสั่งคืนของกลางให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของแท้จริง
และมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดหรือไม่ แต่ประเด็น ที่ผู้ร้องฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์บรรยายไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และทรัพย์ของกลางไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเลยที่ ๑ ต้องยกขึ้นต่อสู้ในคดีหลัก
ผู้ร้องจะยกขึ้นมาว่ากล่าวในชั้นร้องขอคืนของกลางไม่ได้
ค่าใช้จ่ายที่ผู้ร้องวางเพื่อใช้ในการส่งสำเนาคำร้องและหมายนัดให้แก่คู่ความในคดีร้องขอคืนของกลางซึ่งแม้ถือเป็น
ส่วนหนึ่งของคดีอาญาแต่ไม่ใช่ ค่าธรรมเนียมที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๒๖ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๕๒
บัญญัติไว้มิให้เรียก ผู้ร้องจะต้องนำมาวางตามคำสั่งศาล
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๖
ในกรณีที่ศาลสั่งให้รับทรัพย์สินตามมาตรา ๓๓ หรือ มาตรา ๓๔ ไปแล้ว
หากปรากฏในภายหลังโดยคำเสนอของเจ้าของแท้จริงว่า ผู้เป็นเจ้าของแท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด
ก็ให้ศาลสั่งให้คืนทรัพย์สิน
ถ้าทรัพย์สินนั้นยังคงมีอยู่ในความครอบครองของเจ้าพนักงาน แต่คำเสนอของเจ้าของแท้จริงนั้นจะต้องกระทำต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๒๕๒
ในคดีอาญาทั้งหลายห้ามมิให้ศาลยุติธรรมเรียกค่าธรรมเนียมนอกจากที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้
0 Comments
แสดงความคิดเห็น