คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๙๓๘/๒๕๖๓ 

               จำเลยทั้งสองเจตนาจะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อโจทก์โดยส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อกลับคืนให้เจ้าของ ณ ภูมิลำเนาของเจ้าของ และตกลงที่จะรับผิดในบรรดาหนี้ที่เกิดขึ้นจากการบอกเลิกสัญญานี้ อันเป็นการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อสัญญาเช่าซื้อ สัญญาเช่าซื้อจึงเลิกกันตามข้อสัญญา หาใช่สัญญาเช่าซื้อเลิกกันโดยคู่สัญญาสมัครใจที่จะเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายไม่ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาได้

               จำเลยที่ ๑ เริ่มผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๔๖ ที่แก้ไขใหม่ มีผลใช้บังคับแล้ว เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ต้องมี หนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด โจทก์มีหนังสือแจ้งสิทธิการซื้อทรัพย์สินส่งไปยังจำเลยที่ ๒ โดยหนังสือถูกส่งคืนกลับต้นทาง และโจทก์ขายทอดตลาดรถยนต์ที่เช่าซื้อ หลังจากนั้นโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวทวงถามไปยังจำเลยที่ ๒ อีกครั้ง จำเลยที่ ๒ ได้รับเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ จำเลยที่ ๒ ในฐานะส่วนตัวซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทนตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกำหนดเวลา ๖๐ วัน จำเลยที่ ๒ ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ชำระค่าขาดประโยชน์อันเป็นค่าสินไหมทดแทนเพียง ๖๐ วัน ส่วนค่าขาดราคาถือเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้ จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องร่วมกับจำเลยที่ ๑ รับผิดในมูลหนี้ค่าขาดราคา

 

               ตามฎีกานี้ สัญญาเช่าซื้อ ข้อ ๙ กำหนดว่า ผู้เช่าซื้อฝ่ายเดียวจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดก็ได้ โดยการส่งมอบรถยนต์ที่ เช่าซื้อกลับคืนให้เจ้าของ ณ ภูมิลำเนาของเจ้าของ และผู้เช่าตกลงที่จะชำระบรรดาหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันบอกเลิกสัญญาแก่เจ้าของจนครบถ้วน และเมื่อเจ้าของนำรถยนต์ที่เช่าซื้อออกขาย หากได้ราคาน้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชำระส่วนที่ขาดนั้นให้แก่เจ้าของจนครบถ้วน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีข้อตกลงว่าที่จะรับผิดในบรรดาหนี้ที่เกิดขึ้นจากการบอกเลิกสัญญานี้ แม้จะไม่ได้มีการชำระเงินใดๆ ในขณะส่งมอบรถคืน ถือว่าเป็นการเลิกสัญญาตามข้อสัญญา จำเลยจึงต้องรับผิดในค่าขาดราคา

               จำเลยที่ ๑ ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดที่ ๒๕ ประจำวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ โจทก์มิได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยทั้งสอง ต่อมาวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ จำเลยที่ ๒ ส่งมอบรถยนต์คืนโจทก์

 

หมายเหตุ

               เปรียบเทียบ ฎีกาที่ ๔๖๐๗/๒๕๖๒

 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

               มาตรา ๓๘๖ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญาหรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นนั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง

               แสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่