คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๒๔๒/๒๕๕๙
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นทายาทของ
ห. และจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก
แต่จำเลยไม่จัดการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้ทายาทผู้มีสิทธิอย่างถูกต้อง
จึงเป็นคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก
โจทก์ซึ่งเป็นทายาทมีสิทธิฟ้องคดีภายในห้าปีนับแต่การจัดการมรดกสิ้นสุดลงตามมาตรา
๑๗๓๓ วรรคสอง หาใช่เป็นเรื่องทายาทฟ้องเรียกเอาทรัพย์มรดกระหว่างกันเองซึ่งใช้อายุความตามมาตรา
๑๗๕๔ ไม่
ฎีกาที่
๗๐๓๖/๒๕๕๗ กำหนดอายุความมรดกตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๗๕๔ ที่บัญญัติห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย หรือนับแต่ทายาทโดยธรรมได้รู้
หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดก แต่ห้ามมิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดสิบปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตายนั้นใช้บังคับสำหรับกรณีที่ทายาทฟ้องเรียกร้องทรัพย์มรดกจากทายาทที่ครอบครองทรัพย์มรดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกัน
หมายเหตุ
๑.ทายาทฟ้องผู้จัดการมรดก
ในเรื่องการแบ่งปันทรัพย์มรดก เป็นคดีจัดการมรดก มีกำหนดอายุความ ๕ ปี
นับแต่การจัดการมรดกเสร็จสิ้นลง
๒.ทายาทฟ้องทายาทกันเอง
ในเรื่องส่วนแบ่งทรัพย์มรดก เป็นคดีมรดก มีกำหนดอายุความ ๑ ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย
หรือนับแต่ทายาทโดยธรรมได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
๓.ทายาทฟ้องผู้จัดการมรดก
และทายาทเป็นคดีเดียวกัน ในส่วนของผู้จัดการมรดกเป็นคดีจัดการมรดก มีกำหนดอายุความ
๕ ปี ในส่วนของทายาท เป็นคดีมรดก มีกำหนดอายุความ ๑ ปี (ฎีกาที่ ๓๕๗๕/๒๕๔๑)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๗๓๓
วรรคสอง คดีเกี่ยวกับการจัดการมรดกนั้น
มิให้ทายาทฟ้องเกินกว่าห้าปีนับแต่การจัดการมรดกสิ้นสุดลง
มาตรา ๑๗๕๔ ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย หรือนับแต่เมื่อทายาทโดยธรรมได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก คดีฟ้องเรียกตามข้อกำหนดพินัยกรรม มิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อผู้รับพินัยกรรมได้รู้หรือควรได้รู้ถึงสิทธิซึ่งตนมีอยู่ตามพินัยกรรม
0 Comments
แสดงความคิดเห็น