คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๓๗๑/๒๕๖๐
ข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสองตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีข้อความว่า
โจทก์ตกลงให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์
โดยให้ชำระเป็นระยะเวลา ๑๕ งวด เริ่มงวดแรกในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๗
ส่วนงวดถัดไปให้ชำระในวันที่ ๓๐ ของทุกเดือนถัดไปจนกว่าจะครบ ๑๕ งวด โดยในงวดที่ ๑
โจทก์ตกลงให้จำเลยทั้งสองชำระเงินเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนงวดที่ ๒
ถึงที่ ๖ ให้ชำระไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท แต่ทั้งนี้ในการชำระงวดที่ ๑ ถึงงวดที่
๖ จำเลยทั้งสองต้องชำระให้โจทก์รวมไม่ต่ำกว่า ๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนงวดที่ ๗
ถึงงวดที่ ๑๕ โจทก์ตกลงให้จำเลยทั้งสองชำระเป็นเงินไม่ต่ำกว่างวดละ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
และทนายโจทก์แถลงเพิ่มเติมว่า
ข้อตกลงดังกล่าวนี้คู่ความทั้งสองฝ่ายจะยังไม่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนี้ในวันนี้
เนื่องจากโจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คอันมีมูลคดีหลักมาจากคดีเรื่องนี้ที่ศาลแขวงพระนครใต้
๓ เรื่อง หากทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปในคดีนี้
ฝ่ายโจทก์กลัวว่าจะทำให้คดีเช็คทั้ง ๓ เรื่อง ระงับสิ้นไป
ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลงในการผ่อนชำระหนี้ตามเช็คเท่านั้น
ซึ่งไม่มีข้อความตอนใดแสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยทั้งสองในทันที
ทั้งตามคำพิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ก็มิใช่คำพิพากษาเป็นไปตามข้อตกลงตามรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าว
จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่ทำให้มูลหนี้ตามเช็คในคดีนี้ระงับไปแล้วเกิดหนี้ใหม่
ทั้งไม่มีการเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้จึงไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่อันจะทำให้หนี้เดิมระงับไปแต่อย่างใด
เช็คพิพาทจึงยังไม่สิ้นผลผูกพันตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พ.ศ.๒๕๓๔ มาตรา ๗ คดีจึงไม่เลิกกัน
สิทธิของโจทก์ในการนำคดีอาญามาฟ้องจึงไม่ระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๓๙ (๒)
ตามฎีกานี้
ข้อตกลงตามรายงานกระบวนพิจารณา ไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ มูลคดีในคดีความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
จึงไม่ระงับไป
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๓๔๙ เมื่อคู่กรณีที่เกี่ยวข้องได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ไซร้ ท่านว่าหนี้นั้นเป็นอันระงับสิ้นไปด้วยแปลงหนี้ใหม่
ถ้าทำหนี้มีเงื่อนไขให้กลายเป็นหนี้ปราศจากเงื่อนไขก็ดี
เพิ่มเติมเงื่อนไขเข้าในหนี้อันปราศจากเงื่อนไขก็ดี เปลี่ยนเงื่อนไขก็ดี
ท่านถือว่าเป็นอันเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้นั้น
ถ้าแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้
ท่านให้บังคับด้วยบทบัญญัติทั้งหลายแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยโอนสิทธิเรียกร้อง
มาตรา ๘๕๐ อันว่าประนีประนอมยอมความนั้น
คือสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๓๙ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป
ดังต่อไปนี้
(๒) ในคดีความผิดต่อส่วนตัว
เมื่อได้ถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๕๓๔
มาตรา ๗ ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๔ ได้ใช้เงินตามเช็คแก่ผู้ทรงเช็คหรือแก่ธนาคารภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้ออกเช็คได้รับหนังสือบอกกล่าวจากผู้ทรงเช็คว่าธนาคารไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น
หรือหนี้ที่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๔
ได้ออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้นได้สิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
0 Comments
แสดงความคิดเห็น