คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๖๓/๒๕๖๓
จำเลยได้รับเงินค่าเช่าบ้านไปจากกรมโจทก์โดยมิชอบ
และมิใช่กรณีโจทก์จ่ายค่าเช่าบ้านให้แก่จำเลยเพื่อชำระหนี้เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยขอรับสวัสดิการจากหน่วยงานของรัฐ
ซึ่งจำเลยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางราชการ
แม้เงินที่จำเลยได้รับไปเป็นการได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
แต่หาใช่เรื่องลาภมิควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๐๖ ไม่
โจทก์ในฐานะเจ้าของเงินที่ส่งมอบให้จำเลยโดยสำคัญผิดย่อมมีสิทธิติดตามเอาเงินของโจทก์คืนจากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะได้รับ หรือยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๓๖ โดยไม่มีกำหนดอายุความ
ตามฎีกานี้
จำเลยไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน
เนื่องจากได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานใหม่ในต่างท้องที่ตามคำร้องขอของตนเอง
ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ
พ.ศ.๒๕๒๗ มาตรา ๗ วรรคหนึ่ง (๔)
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๔๑
ปัจจุบัน คือมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง (๓) อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย
พ.ศ.๒๕๑๘
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๓๖ ภายในบังคับแห่งกฎหมาย
เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอยและจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น
กับทั้งมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้
และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
0 Comments
แสดงความคิดเห็น