คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๗๕๗/๒๕๖๓
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๓๕ (๒) วรรคแรก ประกอบมาตรา ๘๓, ๓๓๖ ทวิ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิด
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๗) (๘) วรรคสอง ประกอบ มาตรา ๘๓, ๓๓๖ ทวิ เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ แก้วรรคของความผิดในบทมาตราเดียวกันและเป็นการแก้ไขปรับบทให้ถูกต้องตามฟ้องโจทก์ดังที่จำเลยให้การรับสารภาพทั้งลักษณะความผิด
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ วรรคแรกและวรรคสอง ไม่แตกต่างกันและมีระวางโทษขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีเหมือนกัน
ต่างกันเฉพาะระวางโทษขั้นสูง การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ เพียงแต่แก้จำนวนโทษมิได้แก้บทลงโทษเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค
๑ พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี จำเลยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง
กรณีจะถือเป็นการแก้ไขมากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง จะต้องเป็นการแก้ไขทั้งบทลงโทษและจำนวนโทษที่จะลง
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๑๓๐๓/๒๕๕๕ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค
๖ พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๓ มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๕ (๑) วรรคแรก
โดยไม่ได้ใช้อัตราโทษตามที่มาตรา ๓๓๖ ทวิ กำหนดไว้นั้นลักษณะความผิดตาม ป.อ. มาตรา
๓๓๕ วรรคแรก และวรรคสองไม่แตกต่างกันและมีระวางโทษขั้นต่ำจำคุกตั้งแต่ ๑ ปี
เหมือนกัน ต่างกันเฉพาะระวางโทษขั้นสูงซึ่งมาตรา ๓๓๕ วรรคแรก ระวางโทษขั้นสูงจาคุก
๕ ปี วรรคสอง ระวางโทษขั้นสูงจำคุก ๗ ปี ส่วน ป.อ. มาตรา ๓๓๖ ทวิ
เป็นบทบัญญัติถึงเหตุที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๓๓๕ ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ
กึ่งหนึ่ง หาใช่เป็นความผิดอีกบทหนึ่งต่างหากไม่ จึงไม่เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๖
แก้บทลงโทษ เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค ๖ เพียงแต่แก้จำนวนโทษมิได้แก้บทลงโทษ
จึงเป็นกรณีแก้ไขเล็กน้อย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๒๑๘
ในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างหรือเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี หรือปรับหรือทั้งจำทั้งปรับแต่โทษจำคุกไม่เกินห้าปีห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างหรือเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยเกินห้าปี
ไม่ว่าจะมีโทษอย่างอื่นด้วยหรือไม่ ห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
0 Comments
แสดงความคิดเห็น