คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๐๒/๒๕๖๓
ข้อยกเว้นกรณีคู่สัญญาซึ่งถูกบังคับใช้เงินจะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมขึ้นเป็นข้อต่อสู้ตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๘ นั้น อาจเป็นกรณีที่เจ้าของลายมือชื่อที่ถูกปลอมได้แสดงกริยาอย่างหนึ่งอย่างใดให้คนภายนอกหลงเชื่อว่าลายมือชื่อที่ลงในตั๋วเงินนั้นเป็นลายมือชื่อที่แท้จริงของตน
เป็นเหตุให้บุคคลภายนอกทำการไปโดยหลงเชื่อตามที่เจ้าของชื่อแสดงออกมาจนอาจเป็นที่เสียหายแก่เขา
เจ้าของลายมือชื่อที่ถูกปลอมจะอ้างในภายหลังว่าลายมือชื่อนั้นปลอมให้เป็นการเสียหายแก่เขาไม่ได้
การที่โจทก์ไม่ระมัดระวังในการดูแลรักษาแบบพิมพ์เช็คพิพาทอย่างวิญญูชนที่พึงกระทำ
และโจทก์ไม่ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบจำนวนเช็คและใบแจ้งหนี้ที่ธนาคารจำเลยที่ ๑๐
ส่งให้ตรวจสอบทุก ๆ เดือน เป็นเพียงการไม่ใส่ใจในความเสียหายของตนเองที่อาจมีขึ้นจากการไม่ใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบ
ซึ่งมิใช่การแสดงกริยาอย่างหนึ่งอย่างใดโดยตรงต่อพนักงานของจำเลยที่ ๑๐ แล้ว
เป็นผลโดยตรงให้พนักงานของจำเลยที่ ๑๐ หลงเชื่อว่าลายมือชื่อที่ลงในเช็คแต่ละฉบับเป็นลายมือชื่อที่แท้จริง
การกระทำของโจทก์ จึงมิได้อยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยที่
๑๐ ตามมาตรา ๑๐๐๘ วรรคหนึ่ง
ธนาคารจำเลยที่
๑๐ จ่ายเงินตามเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คที่มีการปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายให้แก่ผู้ที่นำมาเรียกเก็บเงินทั้งที่มีตัวอย่างลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่ายของโจทก์ที่ให้ไว้แก่จำเลยที่
๑๐ กับมีเช็คอีกหลายฉบับที่โจทก์เคยสั่งจ่ายไว้อยู่ที่จำเลยที่ ๑๐ จึงเป็นการขาดความระมัดระวังของจำเลยที่
๑๐ ผู้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ถือได้ว่าการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่
๑๐ เอง เมื่อลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือชื่อปลอม
ไม่ใช่ลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่ายของโจทก์ จำเลยที่ ๑๐
ไม่หลุดพ้นจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๘ วรรคหนึ่ง
แม้โจทก์มิได้ทักท้วงรายการเดินสะพัดทางบัญชีและแจ้งให้จำเลยที่ ๑๐ ทราบก็ตาม
การกระทำของโจทก์มิได้เป็นผลโดยตรงที่ทำให้จำเลยที่ ๑๐ จ่ายเงินตามเช็คพิพาทไปโดยประมาทเลินเล่อ
จำเลยที่ ๑๐ ย่อมต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทคืนแก่โจทก์ตามมาตรา ๑๐๐๘ วรรคหนึ่ง
ตามฎีกานี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยในประเด็นว่า “จำเลยที่
๑๐ มิได้โต้แย้งโดยชัดแจ้งว่าโจทก์ไม่ระมัดระวังดูแลรักษาสมุดเช็คพิพาทอย่างวิญญูชนปกติพึงกระทำอย่างไรอันเป็นเหตุให้ต้องถูกตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมขึ้นต่อสู้..ฎีกาข้อนี้ของจำเลยที่
๑๐ ฟังไม่ขึ้น”
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๐๐๘
ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติทั้งหลายในประมวลกฎหมายนี้
เมื่อใดลายมือชื่อในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอมก็ดี เป็นลายมือชื่อลงไว้โดยที่บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของลายมือชื่อนั้นมิได้มอบอำนาจให้ลงก็ดี
ท่านว่าลายมือชื่อปลอมหรือลงปราศจากอำนาจเช่นนั้นเป็นอันใช้ไม่ได้เลย
ใครจะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงตั๋วเงินไว้ก็ดี เพื่อทำให้ตั๋วนั้นหลุดพ้นก็ดี
หรือเพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สัญญาแห่งตั๋วนั้นคนใดคนหนึ่งก็ดี
ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาด เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายซึ่งจะพึง
ถูกยึดหน่วงหรือถูกบังคับใช้เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอม
หรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้
แต่ข้อความใด ๆ
อันกล่าวมาในมาตรานี้
ท่านมิให้กระทบกระทั่งถึงการให้สัตยาบันแก่ลายมือชื่อซึ่งลงไว้โดยปราศจากอำนาจแต่หากไม่ถึงแก่เป็นลายมือปลอม
0 Comments
แสดงความคิดเห็น